รัสเซียเพิ่มเดิมพันในวิกฤตยูเครน ประกาศยอมรับผลการลงประชามติที่กลุ่มประท้วงนิยมมอสโกอ้างชัยชนะ พร้อมเรียกร้องให้เคียฟเปิดเจรจากับผู้นำขบวนการเรียกร้องอำนาจปกครองตนเองในภาคตะวันออก ทว่า รัฐบาลรักษาการยูเครนและพันธมิตรตะวันตกต่างออกมาประณามการโหวตดังกล่าว นอกจากนี้อียูยังเตรียมประชุมเพื่อเพิ่มมาตรการลงโทษวังเครมลิน
กลุ่มประท้วงนิยมรัสเซียในโดเนตสก์ และ ลูกานสก์ 2 จังหวัดทางภาคตะวันออกของยูเครน ยังคงเดินหน้าจัดการลงประชามติเมื่อวันอาทิตย์ (11 พ.ค.) ซึ่งให้ผู้ออกเสียงตอบคำถามว่า เห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ กับการประกาศตนเป็นเอกราช ต่อมาเจ้าหน้าที่ของกลุ่มนี้ในโดเนตสก์ระบุว่า ผู้ใช้สิทธิ์ 89% สนับสนุนการแยกตัวจากยูเครน ขณะที่คาดกันว่า ผลการโหวตที่จังหวัดลูกานสก์ที่จะออกมาในวันจันทร์ (12) น่าจะใกล้เคียงกัน
ทว่า รัฐบาลรักษาการของยูเครนในกรุงเคียฟและฝ่ายตะวันตกพากันคัดค้านว่า ผลลงประชามตินี้เชื่อถือไม่ได้ เพราะกลุ่มกบฏขัดขวางไม่ให้สื่อต่างชาติเข้าสังเกตการณ์การนับบัตรลงคะแนน รวมทั้งไม่มีคณะผู้สังเกตการณ์อิสระประจำอยู่ในคูหาเลือกตั้ง ไม่มีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ขณะที่กระบวนการลงทะเบียนเป็นไปตามยถากรรมและไม่มีระบบป้องกันการเวียนเทียนหย่อนบัตร
กระนั้น เดนิส พุชชิลิน ผู้นำกลุ่มกบฏในโดเนตสก์ระบุว่า ผลการลงประชามติครั้งนี้จะนำไปสู่การก่อตั้งรัฐบาลประชาชนในจังหวัดนี้เป็นครั้งแรก และกลุ่มผู้จัดการลงประชามติบอกว่า จะมีการหารือสถานะสุดท้ายของสองจังหวัดนี้กันในภายหลัง ซึ่งอาจรวมถึง การแยกตัวจากยูเครน, การยังคงเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน, หรือการผนวกกับรัสเซีย
วิกฤตการณ์ในยูเครนเวลานี้ กำลังก่อให้เกิดความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า จะเกิดการแบ่งแยกยูเครนและปะทุเป็นสงครามกลางเมือง ถึงแม้รัสเซีย เคียฟ สหรัฐฯ และอียู ได้ทำข้อตกกันที่เจนีวาเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ทว่าไม่ประสบผลในทางปฏิบัติ และเซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศแดนหมีขาวออกมาแสดงจุดยืนเมื่อวันจันทร์ว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะเจรจาต่อ หากไม่มีตัวแทนจากกลุ่มกบฏในยูเครนตะวันออกเข้าร่วม
ภายในอียูเองก็มีการถกเถียงเกี่ยวกับมาตรการลงโทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผ่อนท่าทีลงด้วยการเรียกร้องให้กลุ่มกบฏชะลอการลงประชามติออกไปก่อน ถึงแม้ไม่ได้ผลก็ตาม
นอกจากนั้นในวันจันทร์ เฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานอียู มีกำหนดเดินทางสู่เคียฟเพื่อหารือกับรัฐบาลรักษาการของยูเครน และวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่อียู รัสเซีย และยูเครนจะหารือกันเกี่ยวกับการจัดส่งก๊าซให้ยูเครน หลังจากรัสเซียประกาศขึ้นราคาก๊าซและเรียกร้องให้ยูเครนจ่ายหนี้ก้อนมหึมาที่ยังค้างอยู่
กลุ่มประท้วงนิยมรัสเซียในโดเนตสก์ และ ลูกานสก์ 2 จังหวัดทางภาคตะวันออกของยูเครน ยังคงเดินหน้าจัดการลงประชามติเมื่อวันอาทิตย์ (11 พ.ค.) ซึ่งให้ผู้ออกเสียงตอบคำถามว่า เห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ กับการประกาศตนเป็นเอกราช ต่อมาเจ้าหน้าที่ของกลุ่มนี้ในโดเนตสก์ระบุว่า ผู้ใช้สิทธิ์ 89% สนับสนุนการแยกตัวจากยูเครน ขณะที่คาดกันว่า ผลการโหวตที่จังหวัดลูกานสก์ที่จะออกมาในวันจันทร์ (12) น่าจะใกล้เคียงกัน
ทว่า รัฐบาลรักษาการของยูเครนในกรุงเคียฟและฝ่ายตะวันตกพากันคัดค้านว่า ผลลงประชามตินี้เชื่อถือไม่ได้ เพราะกลุ่มกบฏขัดขวางไม่ให้สื่อต่างชาติเข้าสังเกตการณ์การนับบัตรลงคะแนน รวมทั้งไม่มีคณะผู้สังเกตการณ์อิสระประจำอยู่ในคูหาเลือกตั้ง ไม่มีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ขณะที่กระบวนการลงทะเบียนเป็นไปตามยถากรรมและไม่มีระบบป้องกันการเวียนเทียนหย่อนบัตร
กระนั้น เดนิส พุชชิลิน ผู้นำกลุ่มกบฏในโดเนตสก์ระบุว่า ผลการลงประชามติครั้งนี้จะนำไปสู่การก่อตั้งรัฐบาลประชาชนในจังหวัดนี้เป็นครั้งแรก และกลุ่มผู้จัดการลงประชามติบอกว่า จะมีการหารือสถานะสุดท้ายของสองจังหวัดนี้กันในภายหลัง ซึ่งอาจรวมถึง การแยกตัวจากยูเครน, การยังคงเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน, หรือการผนวกกับรัสเซีย
วิกฤตการณ์ในยูเครนเวลานี้ กำลังก่อให้เกิดความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า จะเกิดการแบ่งแยกยูเครนและปะทุเป็นสงครามกลางเมือง ถึงแม้รัสเซีย เคียฟ สหรัฐฯ และอียู ได้ทำข้อตกกันที่เจนีวาเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ทว่าไม่ประสบผลในทางปฏิบัติ และเซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศแดนหมีขาวออกมาแสดงจุดยืนเมื่อวันจันทร์ว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะเจรจาต่อ หากไม่มีตัวแทนจากกลุ่มกบฏในยูเครนตะวันออกเข้าร่วม
ภายในอียูเองก็มีการถกเถียงเกี่ยวกับมาตรการลงโทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผ่อนท่าทีลงด้วยการเรียกร้องให้กลุ่มกบฏชะลอการลงประชามติออกไปก่อน ถึงแม้ไม่ได้ผลก็ตาม
นอกจากนั้นในวันจันทร์ เฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานอียู มีกำหนดเดินทางสู่เคียฟเพื่อหารือกับรัฐบาลรักษาการของยูเครน และวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่อียู รัสเซีย และยูเครนจะหารือกันเกี่ยวกับการจัดส่งก๊าซให้ยูเครน หลังจากรัสเซียประกาศขึ้นราคาก๊าซและเรียกร้องให้ยูเครนจ่ายหนี้ก้อนมหึมาที่ยังค้างอยู่
