ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เวลา 16.00 น. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก และนายประสาท พงษ์ศิวาภัย คณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะรองโฆษก แถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีที่คณะอนุกรรมการไต่สวนถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในคดีละเลยเพิกเฉยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
นายปานเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเราได้ดำเนินการมาโดยตลอด ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากวุฒิสภา คือ เรื่องการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลรักษาการ และมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคดีอาญามาด้วย จึงได้ตั้งองค์คณะในการไต่สวน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการถอดถอนผู้บริหาร มีองค์คณะไต่สวนทั้งเรื่องถอดถอนและเรื่องอาญา องค์คณะไต่สวนก็ดำเนินการไต่สวนมา และขณะนี้เห็นว่าข้อมูลเพียงพอดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับการถอดถอนก่อน จึงรวบรวมผลการดำเนินการเกี่ยวกับการถอดถอนส่งให้ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาแล้ว สรุปว่ามีมูลเพียงพอส่งให้วุฒิสภาเพื่อดำเนินการถอดถอนต่อไปได้ มีมติ 7 ต่อ 0 คณะกรรมการที่ดำเนินการมี 7 คน เดิมมี 8 คน แต่ 1 ท่านถอนตัวไป จึงมีมติ 7 ต่อ 0 ว่ามีข้อมูลเพียงพอในการถอดถอน จึงส่งให้วุฒิสภาเพื่อดำเนินการถอดถอน ส่วนเรื่องร้องเรียนอื่นก็ดำเนินการต่อไป
นายประสาท กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เรื่องใหญ่มาก จึงใช้คณะ ป.ป.ช.ทั้งคณะในการเป็นองค์คณะไต่สวน ได้ใช้ความรอบคอบมากในเรื่องนี้ และเปิดโอกาสเต็มที่ที่จะดำเนินการให้โปร่งใส เที่ยงธรรมแก่ผู้ที่ถูกกล่าวหา ดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่าด้วยการไต่สวนข้อเท็จจริง เปิดเผยให้ผู้ถูกกล่าวหาอ้างพยานอย่างเต็มที่ ที่ได้อ้างพยานมาครั้งแรก 11 ปาก ป.ป.ช.ดูแล้วเห็นว่าที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่กล่าวหามี 4 ปาก จึงสอบ 4 ปาก มี 1 คนที่ไปประชุมต่างประเทศ จึงรอและหลังจากนั้นก็สอบทั้ง 4 ปากเสร็จสิ้น ต่อมาอดีตนายกรัฐมนตรีขอมา 7 ปาก แต่ได้พิจารณาไปแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ที่ผู้ถูกกล่าวหาได้ถูกกล่าวหาในครั้งนี้ก็ยืนยันตามเดิม ต่อมาเสนอมาอีก 6 ปาก ซึ่งอยู่ใน 7 ปากที่เคยเสนอ โดย 5 ปากใน 6 ปากมีเอกสารมาด้วย จึงรับไว้หมดเพื่อประกอบการพิจารณาในสำนวน เพื่อให้ความเป็นธรรม ต่อมาขออีก 6 ปากใหม่ เห็นว่ากำลังพิจารณาว่าส่อหรือจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัติตามรัฐธรรมนูญหรือข้อกฎหมายก็ไม่ตัดพยาน นำพยานใหม่ทั้ง 6 หากรวมไว้ในการพิจารณาในคดีสำนวนอาญาต่อไป เพราะมีเรื่องคดีอาญาของผู้ถูกกล่าวหาด้วย ต้องขอขอบพระคุณท่านอดีตนายกรัฐมนตรีที่เข้าสู่กระบวนการสอบข้อเท็จจริง
นายวิชา กล่าวแถลงว่า สรุปการชี้มูลเพื่อดำเนินการถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรีดังนี้ ก่อนหน้านี้องค์คณะไต่สวนมีมติ 7 ต่อ 0 เสียง เห็นว่า พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเป็นเหตุแห่งการถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาออกจากตำแหน่ง จึงให้แยกสำนวนการถอดถอนส่งให้วุฒิสภา ส่วนคดีอาญาที่ประชุมให้ไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปจนกว่าจะสิ้นกระแสความ
นายวิชา กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการถอดถอนที่ยื่นไปจะมีเรื่องของการห้ามไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 5 ปีด้วย
ทั้งนี้ นายวิชา กล่าวอีกว่า ตามที่มีข่าวแพร่สะพัดมาว่า ป.ป.ช.รับลูกมาเพื่อดำเนินการกับคณะรัฐมนตรีรักษาการทั้งชุดไม่เป็นความจริง แต่อย่างใด
นายปานเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเราได้ดำเนินการมาโดยตลอด ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากวุฒิสภา คือ เรื่องการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลรักษาการ และมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคดีอาญามาด้วย จึงได้ตั้งองค์คณะในการไต่สวน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการถอดถอนผู้บริหาร มีองค์คณะไต่สวนทั้งเรื่องถอดถอนและเรื่องอาญา องค์คณะไต่สวนก็ดำเนินการไต่สวนมา และขณะนี้เห็นว่าข้อมูลเพียงพอดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับการถอดถอนก่อน จึงรวบรวมผลการดำเนินการเกี่ยวกับการถอดถอนส่งให้ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาแล้ว สรุปว่ามีมูลเพียงพอส่งให้วุฒิสภาเพื่อดำเนินการถอดถอนต่อไปได้ มีมติ 7 ต่อ 0 คณะกรรมการที่ดำเนินการมี 7 คน เดิมมี 8 คน แต่ 1 ท่านถอนตัวไป จึงมีมติ 7 ต่อ 0 ว่ามีข้อมูลเพียงพอในการถอดถอน จึงส่งให้วุฒิสภาเพื่อดำเนินการถอดถอน ส่วนเรื่องร้องเรียนอื่นก็ดำเนินการต่อไป
นายประสาท กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เรื่องใหญ่มาก จึงใช้คณะ ป.ป.ช.ทั้งคณะในการเป็นองค์คณะไต่สวน ได้ใช้ความรอบคอบมากในเรื่องนี้ และเปิดโอกาสเต็มที่ที่จะดำเนินการให้โปร่งใส เที่ยงธรรมแก่ผู้ที่ถูกกล่าวหา ดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่าด้วยการไต่สวนข้อเท็จจริง เปิดเผยให้ผู้ถูกกล่าวหาอ้างพยานอย่างเต็มที่ ที่ได้อ้างพยานมาครั้งแรก 11 ปาก ป.ป.ช.ดูแล้วเห็นว่าที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่กล่าวหามี 4 ปาก จึงสอบ 4 ปาก มี 1 คนที่ไปประชุมต่างประเทศ จึงรอและหลังจากนั้นก็สอบทั้ง 4 ปากเสร็จสิ้น ต่อมาอดีตนายกรัฐมนตรีขอมา 7 ปาก แต่ได้พิจารณาไปแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ที่ผู้ถูกกล่าวหาได้ถูกกล่าวหาในครั้งนี้ก็ยืนยันตามเดิม ต่อมาเสนอมาอีก 6 ปาก ซึ่งอยู่ใน 7 ปากที่เคยเสนอ โดย 5 ปากใน 6 ปากมีเอกสารมาด้วย จึงรับไว้หมดเพื่อประกอบการพิจารณาในสำนวน เพื่อให้ความเป็นธรรม ต่อมาขออีก 6 ปากใหม่ เห็นว่ากำลังพิจารณาว่าส่อหรือจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัติตามรัฐธรรมนูญหรือข้อกฎหมายก็ไม่ตัดพยาน นำพยานใหม่ทั้ง 6 หากรวมไว้ในการพิจารณาในคดีสำนวนอาญาต่อไป เพราะมีเรื่องคดีอาญาของผู้ถูกกล่าวหาด้วย ต้องขอขอบพระคุณท่านอดีตนายกรัฐมนตรีที่เข้าสู่กระบวนการสอบข้อเท็จจริง
นายวิชา กล่าวแถลงว่า สรุปการชี้มูลเพื่อดำเนินการถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรีดังนี้ ก่อนหน้านี้องค์คณะไต่สวนมีมติ 7 ต่อ 0 เสียง เห็นว่า พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเป็นเหตุแห่งการถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาออกจากตำแหน่ง จึงให้แยกสำนวนการถอดถอนส่งให้วุฒิสภา ส่วนคดีอาญาที่ประชุมให้ไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปจนกว่าจะสิ้นกระแสความ
นายวิชา กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการถอดถอนที่ยื่นไปจะมีเรื่องของการห้ามไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 5 ปีด้วย
ทั้งนี้ นายวิชา กล่าวอีกว่า ตามที่มีข่าวแพร่สะพัดมาว่า ป.ป.ช.รับลูกมาเพื่อดำเนินการกับคณะรัฐมนตรีรักษาการทั้งชุดไม่เป็นความจริง แต่อย่างใด