นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แถลงว่า ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ให้คำร้องกรณี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เจรจากับเอกอัคราชทูตญี่ปุ่น เมื่อปี 2554 ถึงการออกลงตราวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยมีพฤติกรรมส่อว่า จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และปฏิบัติหน้าที่ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตกไป
นายวิชา กล่าวว่า ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบแล้วพบว่า การกระทำของนายสุรพงษ์ถือว่า ไม่ได้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 176 หรือ กระทำความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 189 และมาตรา 192 หรือ ปฏิบัติหน้าที่ฝ่าฝืนมาตราฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันเป็นมูลเหตุให้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า การออกวีซ่าให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดการการเจรจากับเอกอัคราชทูตญี่ปุ่น และไม่ใช่เรื่องของการสั่งการ โดยการออกวีซ่าเป็นอำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่น
นายวิชา กล่าวว่า ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบแล้วพบว่า การกระทำของนายสุรพงษ์ถือว่า ไม่ได้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 176 หรือ กระทำความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 189 และมาตรา 192 หรือ ปฏิบัติหน้าที่ฝ่าฝืนมาตราฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันเป็นมูลเหตุให้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า การออกวีซ่าให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดการการเจรจากับเอกอัคราชทูตญี่ปุ่น และไม่ใช่เรื่องของการสั่งการ โดยการออกวีซ่าเป็นอำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่น