พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยผลดำเนินการของชุดตรวจสอบสถานบริการ ที่ได้ดำเนินการเสนอแก้ไขปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับสถานบริการว่า อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งขาติ โดยมีข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 โดยเพิ่มโทษในมาตรา 26 ผู้ใดตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 120,000-400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมเพิ่มเติมมาตรา 26/1 ผู้ใดดำเนินกิจการสถานบริการในระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาต หรือ ดำเนินกิจการสถานบริการผิดประเภทที่ระบุไว้ในใบอนุญาตต้องระวางโทษจำคุก 1-3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 -200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะเดียวกันได้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 27/1 ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง มาตรา 17 เกี่ยวกับเวลาเปิดปิดของสถานบริการ ต้องระวางโทษจำคุก 1-3 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 60,000 -200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สาเหตุต้องเพิ่มโทษเพราะผู้ประกอบการไม่เกรงกลัวกฎหมาย ในอดีตมีการปรับในอัตราต่ำมาก และที่ผ่านมาการเปิดเกินเวลา มักก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม โดยกำหนดเวลาเปิดปิดสถานบริการในกฎกระทรวงใหม่ ให้สถานบริการประเภทต่างๆ เปิดทำการได้ไม่เกิน 01.00 น.ของวันรุ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มนิยามสถานบริการในมาตรา 3 โดยเพิ่ม (6) ว่า นอกจากสถานบริการที่กำหนดไว้ใน (1)-(5) แล้ว ให้สถานที่ที่มีอาหาร สุรา หรือ เครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่าย หรือยินยอมให้มีการดื่มสุรา ซึ่งลักษณะสถานที่ให้บริการเปิดโล่ง หรือตัวอาคารไม่ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทั้งหมด ที่จัดให้มีดนตรี การแสดงดนตรี หรือการแสดงอื่นใดเพื่อการบันเทิง มีระดับเสียงเกิน 80 เดซิเบล ให้เปิดบริการได้ไม่เกิน 23.00 น. เช่น ร้านลาบ คาราโอเกะ ให้เป็นสถานบริการ และต้องมีการเก็บค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาตด้วย โดยพื้นที่ไม่เกิน 100 ตารางเมตร 10,000 บาท เกิน 100 แต่ไม่ถึง 300 ตารางเมตร 30,000 บาท และพื้นที่เกิน 300 ตารางเมตร 50,000 บาท นอกจากนี้ ยังกำหนดโซนนิ่งเพิ่มเติมจากย่านพัฒน์พงษ์ เพชรบุรีตัดใหม่ และรัชดาภิเษกอีก 8 พื้นที่ ได้แก่ ย่านเพชรบุรี ถนนประเสริฐมนูญกิจตัดประดิษฐ์มนูธรรม ลาดกระบัง สุขุมวิท ราชพฤกษ์ บรมราชชนนี รัชดา-ท่าพระ และ ย่านพระราม 2
ขณะเดียวกันได้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 27/1 ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง มาตรา 17 เกี่ยวกับเวลาเปิดปิดของสถานบริการ ต้องระวางโทษจำคุก 1-3 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 60,000 -200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สาเหตุต้องเพิ่มโทษเพราะผู้ประกอบการไม่เกรงกลัวกฎหมาย ในอดีตมีการปรับในอัตราต่ำมาก และที่ผ่านมาการเปิดเกินเวลา มักก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม โดยกำหนดเวลาเปิดปิดสถานบริการในกฎกระทรวงใหม่ ให้สถานบริการประเภทต่างๆ เปิดทำการได้ไม่เกิน 01.00 น.ของวันรุ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มนิยามสถานบริการในมาตรา 3 โดยเพิ่ม (6) ว่า นอกจากสถานบริการที่กำหนดไว้ใน (1)-(5) แล้ว ให้สถานที่ที่มีอาหาร สุรา หรือ เครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่าย หรือยินยอมให้มีการดื่มสุรา ซึ่งลักษณะสถานที่ให้บริการเปิดโล่ง หรือตัวอาคารไม่ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทั้งหมด ที่จัดให้มีดนตรี การแสดงดนตรี หรือการแสดงอื่นใดเพื่อการบันเทิง มีระดับเสียงเกิน 80 เดซิเบล ให้เปิดบริการได้ไม่เกิน 23.00 น. เช่น ร้านลาบ คาราโอเกะ ให้เป็นสถานบริการ และต้องมีการเก็บค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาตด้วย โดยพื้นที่ไม่เกิน 100 ตารางเมตร 10,000 บาท เกิน 100 แต่ไม่ถึง 300 ตารางเมตร 30,000 บาท และพื้นที่เกิน 300 ตารางเมตร 50,000 บาท นอกจากนี้ ยังกำหนดโซนนิ่งเพิ่มเติมจากย่านพัฒน์พงษ์ เพชรบุรีตัดใหม่ และรัชดาภิเษกอีก 8 พื้นที่ ได้แก่ ย่านเพชรบุรี ถนนประเสริฐมนูญกิจตัดประดิษฐ์มนูธรรม ลาดกระบัง สุขุมวิท ราชพฤกษ์ บรมราชชนนี รัชดา-ท่าพระ และ ย่านพระราม 2