นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยแล้งแล้ว 30 จังหวัด 184 อำเภอ 1,125 ตำบล 10,163 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย แพร่ ตาก น่าน พะเยา พิษณุโลก นครสวรรค์ พิจิตร แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ บุรีรัมย์ ขอนแก่น ศรีสะเกษ ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู สิงห์บุรี สระบุรี ชัยนาท สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ปราจีนบุรี ตรัง สตูล กระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ ได้บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยวิเคราะห์ สำรวจพื้นที่ประสบภัยแล้งและตรวจสอบสถานการณ์น้ำ สำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจัดโซนนิ่งพื้นที่ในและนอกเขตชลประทาน วางแผนการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่จำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พร้อมขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เกษตรกรควรวางแผนเพาะปลูกพืชให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำและแผนการจัดสรรน้ำในพื้นที่ เลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย งดเว้นการทำนาปรัง
ทั้งนี้ ได้บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยวิเคราะห์ สำรวจพื้นที่ประสบภัยแล้งและตรวจสอบสถานการณ์น้ำ สำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจัดโซนนิ่งพื้นที่ในและนอกเขตชลประทาน วางแผนการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่จำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พร้อมขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เกษตรกรควรวางแผนเพาะปลูกพืชให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำและแผนการจัดสรรน้ำในพื้นที่ เลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย งดเว้นการทำนาปรัง
