หลังจากนโยบาย “ปักหมุดเอเชีย” ถูกสถานการณ์ตะวันออกกลางแย่งชิงความสนใจไป ล่าสุด บารัค โอบามา ต้องละวางนโยบายต่างประเทศแทบทั้งหมดและหันมาทุ่มเทกับวิกฤตยูเครนที่กำลังบีบให้เขาต้องรื้อฟื้นบทบาทความเป็น “ผู้นำโลกตะวันตก” ในยุคสงครามเย็น
การแสดงพลังของรัสเซียด้วยการส่งทหารเข้าสู่แหลมไครเมีย ถือเป็นการท้าทายความน่าเชื่อถือส่วนตัวและความน่าเชื่อถือทางการเมืองของโอบามา เนื่องจากในฐานะผู้นำกลุ่มพันธมิตรประเทศมหาอำนาจ และผู้รับประกันความมั่นคงของยุโรป โอบามาจำเป็นต้องรับภาระในการเป็นผู้นำการตอบโต้ของตะวันตก
แม้บทบาทดังกล่าวเป็นที่คุ้นเคยสำหรับประธานาธิบดีอเมริกันเมื่อสองชั่วอายุก่อน แต่ถือว่าตกยุคแล้วในขณะนี้ที่สหภาพโซเวียตเป็นเพียงอดีตที่ไม่มีวันหวนกลับ อย่างไรก็ตาม วิกฤตที่เกิดขึ้นในยูเครนทำให้ความคิดเช่นนี้ต้องถูกทบทวนกันใหม่
นิโคลัส เบิร์นส์ อดีตเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ชี้ว่า โอบามากำลังเผชิญวิกฤตระหว่างประเทศที่ยากเย็นที่สุดนับจากรับตำแหน่ง และนี่ยังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดต่อความมั่นคงของยุโรปนับจากสิ้นสุดสงครามเย็น
วิกฤตยูเครนที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย ลิเบีย และกระแสอาหรับสปริง เป็นอุปสรรคล่าสุดสำหรับการวางแผนนโยบายต่างประเทศของโอบามา ผู้ซึ่งเล็งปรับบทบาทของอเมริกาบนเวทีโลกใหม่ ทั้งด้วยการรีเซ็ตความสัมพันธ์กับรัสเซีย ยุติสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน เปิดยุทธการถล่มอัล-กออิดะห์ด้วย โดรน (อากาศยานไร้นักบิน) และปรับสมดุลอำนาจ หรือ “ปักหมุด” ในเอเชีย
ในเวลานี้ผู้นำสหรัฐฯ กลับกำลังต้องทุ่มเทความสนใจให้กับสิ่งที่พวกผู้ช่วยระดับสูงของเขาระบุว่า เป็นการแย่งยึดดินแดนในยุโรปในรูปแบบเดียวกับวิกฤตการณ์ในศตวรรษที่ 19
การแสดงพลังของรัสเซียด้วยการส่งทหารเข้าสู่แหลมไครเมีย ถือเป็นการท้าทายความน่าเชื่อถือส่วนตัวและความน่าเชื่อถือทางการเมืองของโอบามา เนื่องจากในฐานะผู้นำกลุ่มพันธมิตรประเทศมหาอำนาจ และผู้รับประกันความมั่นคงของยุโรป โอบามาจำเป็นต้องรับภาระในการเป็นผู้นำการตอบโต้ของตะวันตก
แม้บทบาทดังกล่าวเป็นที่คุ้นเคยสำหรับประธานาธิบดีอเมริกันเมื่อสองชั่วอายุก่อน แต่ถือว่าตกยุคแล้วในขณะนี้ที่สหภาพโซเวียตเป็นเพียงอดีตที่ไม่มีวันหวนกลับ อย่างไรก็ตาม วิกฤตที่เกิดขึ้นในยูเครนทำให้ความคิดเช่นนี้ต้องถูกทบทวนกันใหม่
นิโคลัส เบิร์นส์ อดีตเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ชี้ว่า โอบามากำลังเผชิญวิกฤตระหว่างประเทศที่ยากเย็นที่สุดนับจากรับตำแหน่ง และนี่ยังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดต่อความมั่นคงของยุโรปนับจากสิ้นสุดสงครามเย็น
วิกฤตยูเครนที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย ลิเบีย และกระแสอาหรับสปริง เป็นอุปสรรคล่าสุดสำหรับการวางแผนนโยบายต่างประเทศของโอบามา ผู้ซึ่งเล็งปรับบทบาทของอเมริกาบนเวทีโลกใหม่ ทั้งด้วยการรีเซ็ตความสัมพันธ์กับรัสเซีย ยุติสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน เปิดยุทธการถล่มอัล-กออิดะห์ด้วย โดรน (อากาศยานไร้นักบิน) และปรับสมดุลอำนาจ หรือ “ปักหมุด” ในเอเชีย
ในเวลานี้ผู้นำสหรัฐฯ กลับกำลังต้องทุ่มเทความสนใจให้กับสิ่งที่พวกผู้ช่วยระดับสูงของเขาระบุว่า เป็นการแย่งยึดดินแดนในยุโรปในรูปแบบเดียวกับวิกฤตการณ์ในศตวรรษที่ 19