“เฟซบุ๊ก” เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 10 ปี โดยที่บริษัทซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นเริ่มต้น “การปฏิวัติทางสังคม” และกลายเป็นกิจการเครือข่ายทางสังคมที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ กำลังก้าวอยู่บนเส้นทางซึ่งมีความสุกงอมมากขึ้น มีการปรับกลยุทธ์รองรับฐานผู้ใช้ที่มีวัยวุฒิสูงขึ้น ขณะเดียวกับที่สูญเสียยูสเซอร์วัยรุ่นไปเรื่อยๆ
เว็บไซต์เครือข่ายสังคมใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ ที่ถือกำเนิดขึ้นในหอพักมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของอเมริกาเมื่อปี 2004 สามารถสร้างปรากฏการณ์และกำลังยืนหยัดขึ้นเทียบรัศมีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แห่งอื่นๆ
“เฟซบุ๊กทำให้โลกเล็กลงและติดต่อถึงกันมากขึ้น” ทริป ชาวด์รีย์ นักวิเคราะห์จากโกลบัล อิควิตี้ส์ รีเสิร์ชวิจารณ์ อย่างไรก็ตาม เขาชี้ด้วยว่า “แม้เฟซบุ๊กเริ่มต้นการปฏิวัติทางสังคม แต่เฟซบุ๊กอาจไม่สามารถที่จะควบคุมพัฒนาการในเรื่องนี้ได้"
ปัจจุบัน เฟซบุ๊กกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เครือข่ายสังคมแห่งนี้อธิบายภารกิจของบริษัทว่า เป็น “การทำให้โลกเปิดกว้างและเชื่อมต่อถึงกัน” ซึ่งบางคนบอกว่า ภารกิจดังกล่าวลุล่วงเป็นที่เรียบร้อย
ลู เคอร์เนอร์ ผู้ก่อตั้งกองทุนโซเชียล อินเทอร์เน็ต ฟันด์ชี้ว่า กว่า 20% ของเวลาที่ใช้บนอินเทอร์เน็ตถูกใช้ไปกับเฟซบุ๊ก
กระนั้น ในบางแง่มุม เฟซบุ๊กอาจเป็นเหยื่อความสำเร็จของตัวเอง
ฐานผู้ใช้เริ่มต้นของเฟซบุ๊กที่มีเพียงวัยรุ่นและนักศึกษามหาวิทยาลัย บัดนี้ขยายครอบคลุมผู้ใช้ในทุกกลุ่มอายุ โดยบริษัทเผยว่า มีผู้ใช้ที่ใช้งานประจำเดือนละ 1,230 ล้านรายทั่วโลก ซึ่งรวมถึง 945 ล้านรายที่ใช้เครือข่ายสังคมผ่านอุปกรณ์มือถือ
ทว่า นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า เฟซบุ๊กจำเป็นต้องเปลี่ยนกลยุทธ์สำหรับฐานผู้ใช้รุ่นใหญ่
ผลศึกษาผู้ใช้เฟซบุ๊กในอเมริกาที่จัดทำโดยไอสเตรทเทอจีแล็บส์พบว่า จำนวนผู้ใช้ในกลุ่มอายุ 13-17 ปีลดลงถึง 25% สวนทางกับกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่เพิ่มขึ้นถึง 80%
ขณะที่ผลการศึกษาของบริษัทวิจัยโซเชียล เบเกอร์ระบุว่า ผู้ใช้กลุ่มอายุ 18-24 ปียังคงเป็นผู้ใช้กลุ่มใหญ่ที่สุดของเฟซบุ๊ก
เว็บไซต์เครือข่ายสังคมใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ ที่ถือกำเนิดขึ้นในหอพักมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของอเมริกาเมื่อปี 2004 สามารถสร้างปรากฏการณ์และกำลังยืนหยัดขึ้นเทียบรัศมีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แห่งอื่นๆ
“เฟซบุ๊กทำให้โลกเล็กลงและติดต่อถึงกันมากขึ้น” ทริป ชาวด์รีย์ นักวิเคราะห์จากโกลบัล อิควิตี้ส์ รีเสิร์ชวิจารณ์ อย่างไรก็ตาม เขาชี้ด้วยว่า “แม้เฟซบุ๊กเริ่มต้นการปฏิวัติทางสังคม แต่เฟซบุ๊กอาจไม่สามารถที่จะควบคุมพัฒนาการในเรื่องนี้ได้"
ปัจจุบัน เฟซบุ๊กกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เครือข่ายสังคมแห่งนี้อธิบายภารกิจของบริษัทว่า เป็น “การทำให้โลกเปิดกว้างและเชื่อมต่อถึงกัน” ซึ่งบางคนบอกว่า ภารกิจดังกล่าวลุล่วงเป็นที่เรียบร้อย
ลู เคอร์เนอร์ ผู้ก่อตั้งกองทุนโซเชียล อินเทอร์เน็ต ฟันด์ชี้ว่า กว่า 20% ของเวลาที่ใช้บนอินเทอร์เน็ตถูกใช้ไปกับเฟซบุ๊ก
กระนั้น ในบางแง่มุม เฟซบุ๊กอาจเป็นเหยื่อความสำเร็จของตัวเอง
ฐานผู้ใช้เริ่มต้นของเฟซบุ๊กที่มีเพียงวัยรุ่นและนักศึกษามหาวิทยาลัย บัดนี้ขยายครอบคลุมผู้ใช้ในทุกกลุ่มอายุ โดยบริษัทเผยว่า มีผู้ใช้ที่ใช้งานประจำเดือนละ 1,230 ล้านรายทั่วโลก ซึ่งรวมถึง 945 ล้านรายที่ใช้เครือข่ายสังคมผ่านอุปกรณ์มือถือ
ทว่า นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า เฟซบุ๊กจำเป็นต้องเปลี่ยนกลยุทธ์สำหรับฐานผู้ใช้รุ่นใหญ่
ผลศึกษาผู้ใช้เฟซบุ๊กในอเมริกาที่จัดทำโดยไอสเตรทเทอจีแล็บส์พบว่า จำนวนผู้ใช้ในกลุ่มอายุ 13-17 ปีลดลงถึง 25% สวนทางกับกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่เพิ่มขึ้นถึง 80%
ขณะที่ผลการศึกษาของบริษัทวิจัยโซเชียล เบเกอร์ระบุว่า ผู้ใช้กลุ่มอายุ 18-24 ปียังคงเป็นผู้ใช้กลุ่มใหญ่ที่สุดของเฟซบุ๊ก