นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ระบุว่า ผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง จะทำให้เศรษฐกิจปีนี้โตต่ำกว่าการคาดการณ์ และมีผลให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีเร่งปรับตัวมากขึ้น ด้วยการชะลอการจ้างงานใหม่ และจำกัดการจ้างงานใช้เท่าที่จำเป็น โดยกลุ่มแรงงานที่กระทบมากที่สุดคือ แรงงานใหม่ ที่จะเข้าสู่ตลาดช่วงไตรมาส 2 โดยเฉพาะระดับปริญญาตรีที่ว่างงานสะสมต่อเนื่อง และมีผลให้อัตราการว่างงานภาพรวมเพิ่มมากกว่าร้อยละ 1 จากปี 2556 อยู่ที่ร้อยละ 0.7-0.8 หากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ต่ำกว่าร้อยละ 4
นักวิชาการทีดีอาร์ไอ ยังระบุว่า ความน่าวิตกจะรุนแรงในครึ่งปีหลังนี้และปีถัดไป เพราะปัจจัยการเมืองทำให้นักลงทุนชะลอ หรือตัดสินใจไม่ลงทุนใหม่ หรือย้ายการลงทุนไปประเทศอื่น หรือย้ายฐานการผลิตเร็วขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรองรับแรงงานมากกว่า 3-4 แสนคน
ส่วนภาคบริการซึ่งอ่อนไหวมากกับการเมืองถูกกระทบเร็ว ซึ่งหากยังยืดเยื้อจะกระทบมากทวีคูณ รวมถึงอาชีพนอกระบบ ที่มักหารายได้เสริมจากงานภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น การค้าขาย สปา นวดแผนไทย ที่หารายได้เสริมตามฤดูกาล
นักวิชาการทีดีอาร์ไอ ยังระบุว่า ความน่าวิตกจะรุนแรงในครึ่งปีหลังนี้และปีถัดไป เพราะปัจจัยการเมืองทำให้นักลงทุนชะลอ หรือตัดสินใจไม่ลงทุนใหม่ หรือย้ายการลงทุนไปประเทศอื่น หรือย้ายฐานการผลิตเร็วขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรองรับแรงงานมากกว่า 3-4 แสนคน
ส่วนภาคบริการซึ่งอ่อนไหวมากกับการเมืองถูกกระทบเร็ว ซึ่งหากยังยืดเยื้อจะกระทบมากทวีคูณ รวมถึงอาชีพนอกระบบ ที่มักหารายได้เสริมจากงานภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น การค้าขาย สปา นวดแผนไทย ที่หารายได้เสริมตามฤดูกาล
