นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า หากการเมืองจบเร็ว จะไม่มีผลกระทบกับภาคแรงงานมากนัก เพราะไทยยังมีอัตราการว่างงานต่ำ แต่ปัญหาด้านคุณภาพคงยังไม่หมดไป ระดับปริญญาตรีมีมากเกินความต้องการของตลาด จึงมีการว่างงานสะสมต่อเนื่อง การว่างงานของแรงงานระดับบนจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หากจีดีพีโตต่ำกว่า 4% อาจส่งผลให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1% จากเดิม 0.7-0.8% กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ แรงงานใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานในไตรมาส 2 ของปีนี้ ขณะที่แรงงานรุ่นเก่า อาจจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความผวนผวน และความเสี่ยงต่อการสูญเสียงาน
นายยงยุทธ กล่าวว่า หากการเมืองยืดเยื้อ จะทำให้นักลงทุนชะลอ หรือตัดสินใจไม่ลงทุนใหม่ หรือย้ายการลงทุนไปประเทศอื่น แต่ว่าแรงงานในภาคการผลิตอาจจะไม่ย่ำแย่อย่างที่คิด เพราะว่าสามารถเคลื่อนย้ายจากอุตสาหกรรมหนึ่ง ไปอีกอุตสาหกรรมหนึ่งได้
ขณะที่ภาคบริการที่มีความอ่อนไหวมาก จะกระทบมากขึ้นเป็นทวีคูณ และจะกระทบต่อเนื่องถึงภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น การค้าขาย สปา นวดแผนไทย
นายยงยุทธ กล่าวว่า หากการเมืองยืดเยื้อ จะทำให้นักลงทุนชะลอ หรือตัดสินใจไม่ลงทุนใหม่ หรือย้ายการลงทุนไปประเทศอื่น แต่ว่าแรงงานในภาคการผลิตอาจจะไม่ย่ำแย่อย่างที่คิด เพราะว่าสามารถเคลื่อนย้ายจากอุตสาหกรรมหนึ่ง ไปอีกอุตสาหกรรมหนึ่งได้
ขณะที่ภาคบริการที่มีความอ่อนไหวมาก จะกระทบมากขึ้นเป็นทวีคูณ และจะกระทบต่อเนื่องถึงภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น การค้าขาย สปา นวดแผนไทย