นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กล่าวถึงการเดินทางไปยื่นศาลแพ่ง เพื่อขอให้เพิกถอนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ว่า ศาลได้แสดงความกังวลในประเด็นข้อกฎหมาย โดยเฉพาะในเรื่องการระงับยับยั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงเป็นห่วงเหตุการณ์ที่อาจมีการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม จึงขอเลื่อนวันอ่านคำวินิจฉัยไปเป็นวันที่ 30 มกราคม เวลา 11.00 น.
ส่วนกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนกรณีการออกหมายจับแกนนำ กปปส.นั้น ได้มอบหมายให้ทนายทำหน้าที่ในการซักค้านแล้ว ซึ่งศาลจะมีผลการพิจารณาออกมาเป็นเช่นไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
นายถาวร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอนกำลังออกไป เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะหากยังปฏิบัติหน้าที่อยู่อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็เข้าใจว่าตำรวจชั้นผู้น้อยต้องทำตามระบอบทักษิณ แต่ตนได้ประสานไปยังตำรวจนครบาล เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบบริเวณการชุมนุม ส่วนรอบเวทีก็ได้เพิ่มการ์ด กปปส.ในการดูแลรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีความกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ปาระเบิดที่เวทีอนุสาวรีย์ฯ เหมือนวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเราก็ต้องระมัดระวังในเรื่องดังกล่าว สำหรับการเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่ต่างๆ ก็จะใช้ความระมัดระวังมากขึ้น จะมีการส่งทีมล่วงหน้าไปสำรวจพื้นที่ก่อน และต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ ส่วนจะเคลื่อนขบวนไปที่ไหนนั้นต้องรอฟังผลการประชุมจากแกนนำอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งจากรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ว่าจะเดินทางมาพบตนที่เวทีการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ (28 ม.ค.) เวลา 10.00 น.ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องใด หากเป็นเรื่องที่จะพูดคุยเพื่อขอพื้นที่คืนก็พร้อมที่จะรับฟัง แต่เรื่องนี้ กปปส.ก็มีมติออกมาแล้วว่าคงไม่สามารถคืนพื้นที่ชุมนุมให้ได้
ส่วนกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนกรณีการออกหมายจับแกนนำ กปปส.นั้น ได้มอบหมายให้ทนายทำหน้าที่ในการซักค้านแล้ว ซึ่งศาลจะมีผลการพิจารณาออกมาเป็นเช่นไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
นายถาวร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอนกำลังออกไป เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะหากยังปฏิบัติหน้าที่อยู่อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็เข้าใจว่าตำรวจชั้นผู้น้อยต้องทำตามระบอบทักษิณ แต่ตนได้ประสานไปยังตำรวจนครบาล เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบบริเวณการชุมนุม ส่วนรอบเวทีก็ได้เพิ่มการ์ด กปปส.ในการดูแลรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีความกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ปาระเบิดที่เวทีอนุสาวรีย์ฯ เหมือนวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเราก็ต้องระมัดระวังในเรื่องดังกล่าว สำหรับการเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่ต่างๆ ก็จะใช้ความระมัดระวังมากขึ้น จะมีการส่งทีมล่วงหน้าไปสำรวจพื้นที่ก่อน และต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ ส่วนจะเคลื่อนขบวนไปที่ไหนนั้นต้องรอฟังผลการประชุมจากแกนนำอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งจากรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ว่าจะเดินทางมาพบตนที่เวทีการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ (28 ม.ค.) เวลา 10.00 น.ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องใด หากเป็นเรื่องที่จะพูดคุยเพื่อขอพื้นที่คืนก็พร้อมที่จะรับฟัง แต่เรื่องนี้ กปปส.ก็มีมติออกมาแล้วว่าคงไม่สามารถคืนพื้นที่ชุมนุมให้ได้