พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า หลังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ยังมีการชุมนุมและประกาศจับตัวรักษาการนายกรัฐมนตรี ประกาศตัดน้ำตัดไฟสถานทูตที่สำคัญนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเรื่องต่อต้านจากผู้ชุมนุม และถือเป็นการปฏิบัติการทางจิตวิทยาของแกนนำที่ต้องการให้ประชาชนอยู่ร่วมการชุมนุมต่อไป ซึ่งเชื่อว่าหากรัฐบาลได้มีการชี้แจงกับประชาชน จะมีความเข้าใจมากขึ้น โดยยืนยันว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ได้มีการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยของบุคคลสำคัญมากขึ้น และเป็นการประกาศ เพื่อป้องกันเหตุให้สถานที่ราชการรวมถึงการให้บริการประชาชนให้ดำเนินการได้ แต่ไม่ได้มุ่งสลายการชุมนุมอีกทั้งสถานการณ์การชุมนุมเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น
พล.ท.ภราดร ยืนยันว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในทางกฎหมาย ได้มีการศึกษากับฝ่ายกฎหมายที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้วเชื่อว่า จะไม่มีปัญหาใดใด
ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังเดินหน้าเข้าร่วมการเคลื่อนไหวนั้น จากนี้ต้องมีการประกาศข้อห้ามจากศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กำหนดพื้นที่ห้ามชุมนุม และบ่ายวันนี้จะมีการประชุม เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งหมดออกมาให้ประชาชนรับทราบ ในส่วนของสื่อมวลชนนั้น เป็นไปได้ที่จะเชิญบรรณาธิการของสื่อบางสำนักเข้าทำความเข้าใจ รวมถึงผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์บลูสกายด้วย เบื้องต้นได้ประสานไปยังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้ติดตามการเสนอข้อมูลข่าวสารต่างๆ แล้ว แต่ยังติดระเบียบของ กสทช.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พล.ท.ภราดร ยืนยันว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในทางกฎหมาย ได้มีการศึกษากับฝ่ายกฎหมายที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้วเชื่อว่า จะไม่มีปัญหาใดใด
ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังเดินหน้าเข้าร่วมการเคลื่อนไหวนั้น จากนี้ต้องมีการประกาศข้อห้ามจากศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กำหนดพื้นที่ห้ามชุมนุม และบ่ายวันนี้จะมีการประชุม เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งหมดออกมาให้ประชาชนรับทราบ ในส่วนของสื่อมวลชนนั้น เป็นไปได้ที่จะเชิญบรรณาธิการของสื่อบางสำนักเข้าทำความเข้าใจ รวมถึงผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์บลูสกายด้วย เบื้องต้นได้ประสานไปยังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้ติดตามการเสนอข้อมูลข่าวสารต่างๆ แล้ว แต่ยังติดระเบียบของ กสทช.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
