“สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงคณะทูตต่างประเทศ เรื่องรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
วันนี้ (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต กระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญคณะทูตานุทูตและผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ที่ประจำการในประเทศไทย เข้ารับฟังการบรรยายชี้แจงกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเวลา 60 วัน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยจากการชุมนุมยืดเยื้อของกลุ่ม กปปส.โดยมี นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจง ขณะที่คณะทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมงานนี้ มีทั้งหมด 65 คน โดยมีคณะทูต 57 คน ซึ่งมีระดับเอกอัครราชทูต 31 คน และผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ 8 คน
ภายหลังการชี้แจงเสร็จสิ้น นายสีหศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า สถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองของไทยมาตลอด และจำเป็นต้องรายงานกลับไปยังต้นสังกัด จึงถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องชี้แจงให้คณะทูตมีความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อจำกัดความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีเครื่องมือและอำนาจตามกฎหมายมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการให้อำนาจฝ่ายความมั่นคงให้สามารถดูแลรักษาความสงบได้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่เป็นการห้ามไม่ให้มีการประท้วงและไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะใช้กำลังในการแก้ไขปัญหา โดยจะยังใช้ความยับยั้งชั่งใจเช่นเดิม และไม่มีการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงกับผู้แทนของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยให้มีผู้สังเกตการณ์ต่อการปฏิบัติของรัฐบาลด้วย โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะยึดหลักสากลอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีสถานเอกอัครราชทูตของประเทศใด ร้องขอการอารักขาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวต่างชาติถามว่าถ้าไม่มีการใช้มาตรการเพิ่มเติมใดๆ แล้ว พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะต่างกับ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร อย่างไร นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการให้อำนาจเพื่อควบคุมเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน และสถานการณ์ในระยะยาว รวมทั้งการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 ก.พ.นี้ด้วย
ขณะที่ นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวบีบีซี ถามว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งอย่างไร และกองทัพให้ความร่วมมือกับรัฐบาลหรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะสามารถดูแลให้การเลือกตั้งผ่านไปได้ และในศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) มีผู้แทนของกองทัพรวมอยู่ด้วย
นอกจากนี้ สำนักข่าวต่างประเทศอื่นๆ อาทิ เอเอฟพี เอพี เอบีซี และหนังสือพิมพ์สเตรตส์ไทมส์ ของสิงคโปร์ ยังได้ถามถึงผลกระทบต่อเสรีภาพในการรายงานข่าวของสื่อมวลชนภายใต้ พ.ร.ก.ดังกล่าวหรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นการใช้เพียงมาตรา 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เท่านั้น ยังไม่มีการบังคับใช้ตามมาตรา 9
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรา 9 วงเล็บ 3 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บัญญัติว่าห้ามการเสนอข่าวการจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนทั้งในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือทั่วราชอาณาจักร
