*** เป็นวันที่ กกต.ได้ประกาศให้ทุกพรรคการเมืองเดินทางมาจับหมายเลขเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ณ สนามกีฬาเวสน์ 2 ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวันแล้ว โดยเฉพาะวันนี้ได้มีการเตรียมการเพื่อการดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ กกต.และผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆ ให้สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างสะดวก ปลอดภัย
แต่ปรากฏว่า ตั้งแต่เมื่อเช้า ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 700 คน พร้อมด้วยรถบัสจำนวน 10 กว่าคัน และรถเครื่องเสียงจำนวน 2 คัน มาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ มีการทำลายประตูโดยใช้ลวดคล้องประตู แล้วถอนรั้วเสาเป็นระยะๆ ระหว่างประตู 1 และประตู 2 รวมทั้งมีการนำรถบรรทุกน้ำมาชนกระแทกประตู เพื่อที่จะบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด มีการเจรจาขอร้อง และประกาศผ่านเครื่องเสียง แนะนำให้หยุดการกระทำดังกล่าว แต่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังฝ่าฝืนและมีการใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะ
เมื่อเวลาประมาณ 07.16 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งเตือนประกาศผ่านทางเครื่องเสียง ว่าจะมีการใช้การปฏิบัติการตามหลักสากลในการควบคุมดูแลการชุมนุมประท้วง หากมีการบุกรุก ประกอบด้วย การผลักดัน การใช้น้ำ การใช้แก๊สน้ำตา และการใช้กระสุนยาง ตามหลักสัดส่วนและหลักความชอบธรรมตามมาตรฐานสากล หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที คือเวลาประมาณ 07.26 น. กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ฝ่าฝืนและได้ใช้รถเข้าไปกระแทกบุกพังประตู 1 อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้การยิงแก๊สน้ำตา และการยิงกระสุนยางไปยังระดับล่าง เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุมด้วยบางส่วน
ต่อจากนั้น ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.จนถึงขณะนี้ ยังมีการกระทบกระทั่งและการปะทะกันตลอดเวลา โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร ยังคงรักษาการณ์อยู่ภายในบริเวณรั้วสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ในขณะเวลาดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ กกต.ก็ได้ดำเนินการให้ตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ จับสลากหมายเลขอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างการปฏิบัติการนั้น ปรากฏว่า มีการใช้อาวุธปืน คาดว่าจากมุมสูง ทางฝั่งของกลุ่มผู้ชุมนุม ยิงมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 3 นาย ได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย 1. ส.ต.ต.ชนะพล โนเปลือย ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการอารักขาควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ถูกยิงบริเวณไหล่ขวา 2. จ.ส.ต.ทวี วงศ์จันทร์ ผู้บังคับหมู่ สภ.บางม่วง ตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ ได้รับบาดเจ็บที่เท้า 3. ด.ต.ปรีชา ทองเปี่ยม ผู้บังคับหมู่ สภ.บางม่วง ตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ ถูกกระบองตีศีรษะและแขนขวา
นอกจากนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนยังมีการใช้หนังสติ๊กยิงหัวน็อต มีการขว้างระเบิดขวดและประทัดยักษ์เข้าใส่เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายนั้น ได้ถูกส่งตัวมารักษาอาการที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลตำรวจแล้ว
ศอ.รส.ขอเรียนว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจและทหาร ได้ใช้ความอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด ทั้งที่ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม จนกระทั่งถูกทุบตี ทำร้ายมาอย่างต่อเนื่อง แต่เราก็ยังใช้ความอดทนอดกลั้น เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายไปได้โดยดี เพราะว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารจำเป็นต้องเป็นผู้รักษากติกาของสังคม เราพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะและการกระทบกระทั่งอย่างมากที่สุด จึงขอวิงวอนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมทุกท่านด้วยความเคารพจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชักจูงหรือชักนำ ให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง ไม่ว่าการบุกรุกสถานที่ราชการ ทำลายทรัพย์สิน การทำร้ายเจ้าหน้าที่ต่างๆ เหล่านั้น กรุณาหยุดการกระทำ สถานการณ์ต่างๆ กำลังจะคลี่คลายโดยดี
ในขณะนี้การจับสลากหมายเลขของพรรคการเมืองเพื่อใช้การเลือกตั้งต่างๆ นั้นก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ผู้ชุมนุมยังปิดล้อมบริเวณโดยรอบของสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น อยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ กกต. สื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวทั้งในและต่างประเทศ ตัวแทนพรรคการเมือง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ยังอยู่ในพื้นที่สนามกีฬาอยู่ ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารซึ่งรักษาการณ์ในบริเวณดังกล่าว กำลังจะพยายามควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชน และสื่อมวลชน ซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ได้รับความปลอดภัยอย่างสูงที่สุด
ขณะนี้ในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่ง ประมาณ 500 คน ของ กปปส. เดินทางไปที่บ้านพัก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการนครบาล 4 ดูแลพื้นที่อยู่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชนส่วนอื่นๆ ก็ดูแลอยู่ สถานการณ์ต่างๆ พยายามที่จะตรวจสอบ ส่วนท่าน ผอ.ศอ.รส.ได้สั่งการให้ทั้งส่วนยุทธการ คือ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ได้ลงไปกำกับการปฏิบัติการร่วมกับ พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงศ์ และท่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในการดูแลเรื่องงานยุทธการ เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ กลับคืนสูสถานการณ์โดยเร็วที่สุด
ส่วนการดำเนินการทางกฎหมาย รวมทั้งการบันทึก ที่จะดำเนินคดีต่อเนื่อง ทั้งแกนนำ เท่าที่ตรวจสอบตอนนี้ประมาณ 5-6 คน ในการสั่งการให้มีการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ หรือสั่งการให้มีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการทำลายทรัพย์สินราชการนั้น ปรากฏภาพต่างๆ ค่อนข้างจะชัดเจนมาก อันนี้ฝ่ายกฎหมายนำโดย พล.ต.อ.เอก เอกอังสนานนท กำลังลงสู่พื้นที่เข้าไปดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
อาวุธที่ถูกใช้ขณะนี้ เบื้องต้น พล.ต.อ.จรัมพร กำลังจะตรวจสอบจากวิถีกระสุนต่างๆ เป็นปืนมาจากมุมสูง บริเวณอาคารสูง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น เราขอสงวนเรื่องชื่ออาคารไว้ก่อน แต่จากวิถีกระสุนนั้นค่อนข้างชัดเจนว่ามาจากมุมสูง
แต่ปรากฏว่า ตั้งแต่เมื่อเช้า ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 700 คน พร้อมด้วยรถบัสจำนวน 10 กว่าคัน และรถเครื่องเสียงจำนวน 2 คัน มาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ มีการทำลายประตูโดยใช้ลวดคล้องประตู แล้วถอนรั้วเสาเป็นระยะๆ ระหว่างประตู 1 และประตู 2 รวมทั้งมีการนำรถบรรทุกน้ำมาชนกระแทกประตู เพื่อที่จะบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด มีการเจรจาขอร้อง และประกาศผ่านเครื่องเสียง แนะนำให้หยุดการกระทำดังกล่าว แต่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังฝ่าฝืนและมีการใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะ
เมื่อเวลาประมาณ 07.16 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งเตือนประกาศผ่านทางเครื่องเสียง ว่าจะมีการใช้การปฏิบัติการตามหลักสากลในการควบคุมดูแลการชุมนุมประท้วง หากมีการบุกรุก ประกอบด้วย การผลักดัน การใช้น้ำ การใช้แก๊สน้ำตา และการใช้กระสุนยาง ตามหลักสัดส่วนและหลักความชอบธรรมตามมาตรฐานสากล หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที คือเวลาประมาณ 07.26 น. กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ฝ่าฝืนและได้ใช้รถเข้าไปกระแทกบุกพังประตู 1 อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้การยิงแก๊สน้ำตา และการยิงกระสุนยางไปยังระดับล่าง เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุมด้วยบางส่วน
ต่อจากนั้น ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.จนถึงขณะนี้ ยังมีการกระทบกระทั่งและการปะทะกันตลอดเวลา โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร ยังคงรักษาการณ์อยู่ภายในบริเวณรั้วสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ในขณะเวลาดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ กกต.ก็ได้ดำเนินการให้ตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ จับสลากหมายเลขอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างการปฏิบัติการนั้น ปรากฏว่า มีการใช้อาวุธปืน คาดว่าจากมุมสูง ทางฝั่งของกลุ่มผู้ชุมนุม ยิงมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 3 นาย ได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย 1. ส.ต.ต.ชนะพล โนเปลือย ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการอารักขาควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ถูกยิงบริเวณไหล่ขวา 2. จ.ส.ต.ทวี วงศ์จันทร์ ผู้บังคับหมู่ สภ.บางม่วง ตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ ได้รับบาดเจ็บที่เท้า 3. ด.ต.ปรีชา ทองเปี่ยม ผู้บังคับหมู่ สภ.บางม่วง ตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ ถูกกระบองตีศีรษะและแขนขวา
นอกจากนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนยังมีการใช้หนังสติ๊กยิงหัวน็อต มีการขว้างระเบิดขวดและประทัดยักษ์เข้าใส่เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายนั้น ได้ถูกส่งตัวมารักษาอาการที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลตำรวจแล้ว
ศอ.รส.ขอเรียนว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจและทหาร ได้ใช้ความอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด ทั้งที่ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม จนกระทั่งถูกทุบตี ทำร้ายมาอย่างต่อเนื่อง แต่เราก็ยังใช้ความอดทนอดกลั้น เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายไปได้โดยดี เพราะว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารจำเป็นต้องเป็นผู้รักษากติกาของสังคม เราพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะและการกระทบกระทั่งอย่างมากที่สุด จึงขอวิงวอนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมทุกท่านด้วยความเคารพจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชักจูงหรือชักนำ ให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง ไม่ว่าการบุกรุกสถานที่ราชการ ทำลายทรัพย์สิน การทำร้ายเจ้าหน้าที่ต่างๆ เหล่านั้น กรุณาหยุดการกระทำ สถานการณ์ต่างๆ กำลังจะคลี่คลายโดยดี
ในขณะนี้การจับสลากหมายเลขของพรรคการเมืองเพื่อใช้การเลือกตั้งต่างๆ นั้นก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ผู้ชุมนุมยังปิดล้อมบริเวณโดยรอบของสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น อยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ กกต. สื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวทั้งในและต่างประเทศ ตัวแทนพรรคการเมือง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ยังอยู่ในพื้นที่สนามกีฬาอยู่ ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารซึ่งรักษาการณ์ในบริเวณดังกล่าว กำลังจะพยายามควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชน และสื่อมวลชน ซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ได้รับความปลอดภัยอย่างสูงที่สุด
ขณะนี้ในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่ง ประมาณ 500 คน ของ กปปส. เดินทางไปที่บ้านพัก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการนครบาล 4 ดูแลพื้นที่อยู่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชนส่วนอื่นๆ ก็ดูแลอยู่ สถานการณ์ต่างๆ พยายามที่จะตรวจสอบ ส่วนท่าน ผอ.ศอ.รส.ได้สั่งการให้ทั้งส่วนยุทธการ คือ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ได้ลงไปกำกับการปฏิบัติการร่วมกับ พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงศ์ และท่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในการดูแลเรื่องงานยุทธการ เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ กลับคืนสูสถานการณ์โดยเร็วที่สุด
ส่วนการดำเนินการทางกฎหมาย รวมทั้งการบันทึก ที่จะดำเนินคดีต่อเนื่อง ทั้งแกนนำ เท่าที่ตรวจสอบตอนนี้ประมาณ 5-6 คน ในการสั่งการให้มีการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ หรือสั่งการให้มีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการทำลายทรัพย์สินราชการนั้น ปรากฏภาพต่างๆ ค่อนข้างจะชัดเจนมาก อันนี้ฝ่ายกฎหมายนำโดย พล.ต.อ.เอก เอกอังสนานนท กำลังลงสู่พื้นที่เข้าไปดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
อาวุธที่ถูกใช้ขณะนี้ เบื้องต้น พล.ต.อ.จรัมพร กำลังจะตรวจสอบจากวิถีกระสุนต่างๆ เป็นปืนมาจากมุมสูง บริเวณอาคารสูง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น เราขอสงวนเรื่องชื่ออาคารไว้ก่อน แต่จากวิถีกระสุนนั้นค่อนข้างชัดเจนว่ามาจากมุมสูง
