ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ พนักงานอัยการ กองคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ ผู้พันตึ๋ง กับพวกรวม 9 คน ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ร่วมกันขู่กรรโชกทรัพย์ จากกรณีร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดวโรรส ตลาดไนท์บาซ่า ในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ โดยการเรียกเก็บค่าเช่าแผง ค่าไฟ ค่าเก็บขยะ โดยไม่มีใบเสร็จรับเงิน และหากผู้ใดไม่นำรถเข็นมาฝากไว้ จะถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจจับกุม ทำให้ผู้ค้าในตลาดดังกล่าวได้รับความเดือดร้อน ระหว่างปี 2538-2539
โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก 9 ปี นายศรายุธ ภู่พลับ อดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเมืองเชียงใหม่ จำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่มิชอบเรียกรับเงิน ส่วนนายธานี ฟูทอง นายพรชัย สุคัณธสิริกุล นายธีรยุทธ สุวรรณพาณิชย์ อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเมืองเชียงใหม่ และผู้พันตึ๋ง จำเลยที่ 2 ถึง 5 เป็นผู้สนับสนุนให้จำเลยที่ 1 ทำผิด มีความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ จำคุก 6 ปี ส่วน พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย หรือ เสธ.ม่อย อดีตที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ นายนิสสันต์ ชาติชำนิ (เสียชีวิต) จ.ส.อ.สุทิน ศรีเมืองหลวง ลูกน้องคนสนิทผู้พันตึ๋ง และนายชาญ ตันตราพิมพ์ จำเลยที่ 6- 9 โจทก์นำสืบพยานไม่สามารถยืนยันได้ว่ากระทำผิดตามฟ้องจริง จึงยกผลประโยชน์ให้กับจำเลยพิพากษายกฟ้อง
ต่อมาจำเลยที่ 1 ถึง 5 ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมพร้อมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1-5 มีความผิดจริง คงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 จำนวน 9 ปี และจำเลยที่ 2 ถึง 5 จำคุกคนละ 6 ปี เช่นเดิม นอกจากนี้ ในส่วนผู้พันตึ๋ง เป็นจำเลยต้องโทษประหารชีวิต ในคดีนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ซึ่งคดีได้ถึงที่สุดแล้ว
โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก 9 ปี นายศรายุธ ภู่พลับ อดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเมืองเชียงใหม่ จำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่มิชอบเรียกรับเงิน ส่วนนายธานี ฟูทอง นายพรชัย สุคัณธสิริกุล นายธีรยุทธ สุวรรณพาณิชย์ อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเมืองเชียงใหม่ และผู้พันตึ๋ง จำเลยที่ 2 ถึง 5 เป็นผู้สนับสนุนให้จำเลยที่ 1 ทำผิด มีความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ จำคุก 6 ปี ส่วน พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย หรือ เสธ.ม่อย อดีตที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ นายนิสสันต์ ชาติชำนิ (เสียชีวิต) จ.ส.อ.สุทิน ศรีเมืองหลวง ลูกน้องคนสนิทผู้พันตึ๋ง และนายชาญ ตันตราพิมพ์ จำเลยที่ 6- 9 โจทก์นำสืบพยานไม่สามารถยืนยันได้ว่ากระทำผิดตามฟ้องจริง จึงยกผลประโยชน์ให้กับจำเลยพิพากษายกฟ้อง
ต่อมาจำเลยที่ 1 ถึง 5 ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมพร้อมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1-5 มีความผิดจริง คงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 จำนวน 9 ปี และจำเลยที่ 2 ถึง 5 จำคุกคนละ 6 ปี เช่นเดิม นอกจากนี้ ในส่วนผู้พันตึ๋ง เป็นจำเลยต้องโทษประหารชีวิต ในคดีนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ซึ่งคดีได้ถึงที่สุดแล้ว
