ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายรอสดี มะยามา ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ใน อ.เมือง จ.นราธิวาส เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อแบ่งแยกราชอาณาจักร สะสมกำลังพลหรืออาวุธ ใช้กำลังประทุษร้ายก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ปล้นทรัพย์หรือรับของโจร เนื่องจากจำเลยกับพวกอีกหลายคน เป็นสมาชิกของขบวนการแบ่งแยกดินแดน ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล อ.สะเดา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ออกจากการป้องครองของรัฐบาลไทย และตั้งตัวเป็นรัฐอิสระปกครองตนเองเรียกว่า รัฐปัตตานี หรือรัฐปัตตานีดารุสสลาม โดยขบวนการดังกล่าวมีแผนยุทธวิธีในการดำเนินการแบ่งแยกดินแดน โดยการก่อการร้ายในรูปแบบต่างๆ อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแบ่งแยกดินแดนลงโทษประหารชีวิต แต่คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกตลอดชีวิต ส่วนศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฐานความผิดอั้งยี่ ซ่องโจร แต่ให้คงโทษตามศาลชั้นต้น ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า โจทก์มีประจักษ์พยานเบิกความยืนยันว่าจำเลยเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในพื้นที่ภาคใต้จริง โดยเป็นถึงหัวหน้ากลุ่มที่สั่งการให้ก่อเหตุ อีกทั้งจำเลยยังให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนถึง 3 ครั้ง คำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้นชอบแล้ว จึงพิพากษายืนให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิตตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแบ่งแยกดินแดนลงโทษประหารชีวิต แต่คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกตลอดชีวิต ส่วนศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฐานความผิดอั้งยี่ ซ่องโจร แต่ให้คงโทษตามศาลชั้นต้น ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า โจทก์มีประจักษ์พยานเบิกความยืนยันว่าจำเลยเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในพื้นที่ภาคใต้จริง โดยเป็นถึงหัวหน้ากลุ่มที่สั่งการให้ก่อเหตุ อีกทั้งจำเลยยังให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนถึง 3 ครั้ง คำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้นชอบแล้ว จึงพิพากษายืนให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิตตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
