คาดรัฐบาลนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ถือโอกาสในการเป็นเจ้าภาพการประชุมซัมมิตญี่ปุ่น-อาเซียน ปลายสัปดาห์นี้ กระชับมิตรและชักชวนชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เหล่านี้ช่วยกันคานอำนาจจีน โดยเฉพาะประเทศที่มีกรณีพิพาทด้านอธิปไตยกับปักกิ่งเช่นเดียวกันกับตนเอง ทั้งนี้มีรายงานว่าร่างแถลงการณ์ร่วมซึ่งเตรียมเอาไว้ จะเน้นย้ำเสรีภาพของการสัญจรในน่านน้ำ-น่านฟ้าสากล อันเป็นการบ่งบอกถึงความไม่พอใจภายในภูมิภาคแถบนี้ จากการประกาศเขตป้องกันภัยทางอากาศใหม่ของพญามังกร
เจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์ในญี่ปุ่นต่างพากันกล่าวว่า ระหว่างการประชุมสุดยอดที่กำหนดเริ่มต้นตั้งแต่วันศุกร์ (13 ธ.ค.) คราวนี้ นายกรัฐมนตรีอาเบะ คาดหวังอย่างมากว่า จะได้รับการสนับสนุนจาก 10 ชาติสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะประเทศที่มีข้อพิพาทด้านอธิปไตยกับจีนเช่นเดียวกับญี่ปุ่น
อิชิโร ฟูจิซากิ อดีตเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยโซเฟีย ในกรุงโตเกียว ชี้ว่า สิ่งสำคัญคือการที่ญี่ปุ่นและอาเซียนจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมืองเกี่ยวกับเสรีภาพในการบินและเดินเรือในน่านฟ้า-น่านน้ำสากล เพื่อปรามไม่ให้กลุ่มที่นิยมการขยายอำนาจในจีนใช้มาตรการที่ก้าวร้าวยิ่งขึ้น
การประชุมสุดยอดครั้งนี้จัดขึ้นในวาระครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับอาเซียน อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่โตเกียวกำลังปรับนโยบายต่อภูมิภาคนี้ หลังจากถูกบดบังจากอิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนที่แผ่ขยายตลอดช่วงหลายปีมานี้
ซัมมิตนี้ยังมีขึ้นท่ามกลางประเด็นร้อนจากการที่ปักกิ่งประกาศเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) เหนือทะเลจีนตะวันออกเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งครอบคลุมหมู่เกาะที่แย่งชิงอยู่กับญี่ปุ่น และส่งผลให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดมากขึ้น
เจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์ในญี่ปุ่นต่างพากันกล่าวว่า ระหว่างการประชุมสุดยอดที่กำหนดเริ่มต้นตั้งแต่วันศุกร์ (13 ธ.ค.) คราวนี้ นายกรัฐมนตรีอาเบะ คาดหวังอย่างมากว่า จะได้รับการสนับสนุนจาก 10 ชาติสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะประเทศที่มีข้อพิพาทด้านอธิปไตยกับจีนเช่นเดียวกับญี่ปุ่น
อิชิโร ฟูจิซากิ อดีตเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยโซเฟีย ในกรุงโตเกียว ชี้ว่า สิ่งสำคัญคือการที่ญี่ปุ่นและอาเซียนจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมืองเกี่ยวกับเสรีภาพในการบินและเดินเรือในน่านฟ้า-น่านน้ำสากล เพื่อปรามไม่ให้กลุ่มที่นิยมการขยายอำนาจในจีนใช้มาตรการที่ก้าวร้าวยิ่งขึ้น
การประชุมสุดยอดครั้งนี้จัดขึ้นในวาระครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับอาเซียน อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่โตเกียวกำลังปรับนโยบายต่อภูมิภาคนี้ หลังจากถูกบดบังจากอิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนที่แผ่ขยายตลอดช่วงหลายปีมานี้
ซัมมิตนี้ยังมีขึ้นท่ามกลางประเด็นร้อนจากการที่ปักกิ่งประกาศเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) เหนือทะเลจีนตะวันออกเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งครอบคลุมหมู่เกาะที่แย่งชิงอยู่กับญี่ปุ่น และส่งผลให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดมากขึ้น