ที่โรงพยาบาลสงฆ์ เวลา 17.00 น. น.พ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมวอร์รูมว่า ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมตลอดทั้งวันนี้จำนวน 94 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ในจำนวนนี้มี 3 รายที่ถูกยิงด้วยกระสุนจริง โดย 2 รายอาการสาหัส รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลรามาธิบดี อีก 1 ราย เป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ถูกยิงเฉี่ยวที่บริเวณใบหู อาการไม่สาหัส ตอนนี้สามารถกลับบ้านได้แล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลือนั้นส่วนใหญ่ถูกยิงด้วยกระสุนยาง และแก๊สน้ำตา ทั้งนี้ ไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสารเคมีแต่อย่างใด ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายใช้กระสุนจริง มีเพียงกระบอง โล่ กระสุนยางและแก๊สน้ำตาเท่านั้น ไม่มีกระสุนจริงอย่างเด็ดขาด เพราะฉะนั้นกรณีที่มีผู้ถูกยิงด้วยกระสุนจริงไม่ได้มาจากฝั่งของเจ้าหน้าที่แน่ๆ
ส่วนกรณีที่มีการกระจายข่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่าตนสั่งห้ามนำน้ำเกลือไปช่วยเหลือผู้ชุมนุมนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะที่จริงคือได้มีการสั่งการให้นำมาไว้ที่ส่วนกลาง หากแพทย์สนามจุดใดต้องการใช้ก็สามารถขอเข้ามาได้ ไม่สามารถขอไปยังองค์การเภสัชกรรมได้โดยตรง เพราะจะเสียเวลาในการตรวจสอบอีก เราให้บริการตามหลักมนุษยธรรมอยู่แล้ว แต่การให้ก็ต้องมีการตรวจสอบด้วยเพื่อไม่ให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ผิด
ด้าน น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แผลพุพองนั้น อาจจะเนื่องจากการโดนแก๊สน้ำตา ซึ่งมีลักษณะเป็งผงที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางเยื่อบุโพรงจมูก เยื่อบุม่านตา ปาก อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวหนังพุพองได้ โดยเฉพาะหากมีแก๊สน้ำตาติดที่บริเวณเสื้อผ้าแล้วไม่เปลี่ยนถ่ายจะก่อให้เกิดการระคายเคืองภายในครึ่งชั่วโมง
ส่วนกรณีที่มีการกระจายข่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่าตนสั่งห้ามนำน้ำเกลือไปช่วยเหลือผู้ชุมนุมนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะที่จริงคือได้มีการสั่งการให้นำมาไว้ที่ส่วนกลาง หากแพทย์สนามจุดใดต้องการใช้ก็สามารถขอเข้ามาได้ ไม่สามารถขอไปยังองค์การเภสัชกรรมได้โดยตรง เพราะจะเสียเวลาในการตรวจสอบอีก เราให้บริการตามหลักมนุษยธรรมอยู่แล้ว แต่การให้ก็ต้องมีการตรวจสอบด้วยเพื่อไม่ให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ผิด
ด้าน น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แผลพุพองนั้น อาจจะเนื่องจากการโดนแก๊สน้ำตา ซึ่งมีลักษณะเป็งผงที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางเยื่อบุโพรงจมูก เยื่อบุม่านตา ปาก อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวหนังพุพองได้ โดยเฉพาะหากมีแก๊สน้ำตาติดที่บริเวณเสื้อผ้าแล้วไม่เปลี่ยนถ่ายจะก่อให้เกิดการระคายเคืองภายในครึ่งชั่วโมง
