นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ประเทศไทยมีทางออกถ้าคุยกัน ระบุว่า ตอนนี้เสียงของนักวิชาการ องค์กรธุรกิจ นักการทูตต่างประเทศ และประชาชนส่วนใหญ่ ต่างเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง หันหน้าพูดคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ซึ่งตนเองเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอถ้าเราพูดคุยกัน และไม่ควรมีคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดคิดว่าความเห็นของตัวเองดีที่สุด โดยไม่ถามประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ และเดินหน้ายึดสถานที่ราชการ เพื่อทำให้รัฐต้องจำนน คุกเข่ารับข้อเรียกร้อง ซึ่งตนถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตย และสมมุติว่าทำสำเร็จ ไม่คิดหรือว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจะไม่ออกมาปกป้องรักษาสิทธิ์ของเขา ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองเราไม่สงบเรียบร้อยในระยะยาว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเจ้าของประเทศคนหนึ่ง ก็ควรจะรับฟังความเห็นของเจ้าของประเทศคนอื่นๆ อีกมากมายหลายล้านคนด้วย และควรพูดคุยกันให้เร็วที่สุด มีข้อเสนอในการปฏิรูปประเทศอย่างไร ก็นำมาคุยกันบนโต๊ะ เพราะการไฮปาร์กฝ่ายเดียวบนเวทีไม่น่านำไปสู่ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ และการใช้วาทกรรมล้มระบอบทักษิณ ก็เป็นวาทกรรมลวงที่ปลุกเร้าประชาชนเท่านั้น ประเทศไทยมีระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และรัฐบาลเข้าสู่อำนาจโดยการเลือกตั้ง เพียงแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจมีผลงานที่คนจดจำได้มากกว่าคนอื่น เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน โอทอป สนามบินสุวรรณภูมิ การให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนไปเรียนต่างประเทศ ดังนั้นคำว่าระบอบทักษิณจึงไม่มีอยู่จริง
นายนพดล ระบุด้วยว่า ตอนนี้ทุกคนมีสิทธิ์นำเสนอความเห็นของตน ส่วนการที่มีกลุ่ม 40 ส.ว.ที่เสนอให้ตระกูลชินวัตรเลิกเล่นการเมืองนั้น ตนอยากถามว่า แล้วปัญหาของประเทศจะยุติหรือไม่ ตนเห็นว่าปัญหาของประเทศไม่ใช่เรื่องคนตระกูลหนึ่งตระกูลใด แต่เป็นเรื่องระบบ กติกา และวัฒนธรรมประชาธิปไตย เราต้องสร้างระบบให้เป็นประชาธิปไตยและเข้มแข็ง ส่วนใคร นามสกุลใด ถ้ามีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ก็สามารถใช้สิทธิ์เสรีภาพเท่าเทียมกับคนไทยคนอื่นๆ ดังนั้นอย่านำระบบเลือกปฏิบัติ แบ่งแยกคน เช่นที่ยกเลิกในประเทศแอฟริกาใต้ มาใช้ในประเทศไทย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเจ้าของประเทศคนหนึ่ง ก็ควรจะรับฟังความเห็นของเจ้าของประเทศคนอื่นๆ อีกมากมายหลายล้านคนด้วย และควรพูดคุยกันให้เร็วที่สุด มีข้อเสนอในการปฏิรูปประเทศอย่างไร ก็นำมาคุยกันบนโต๊ะ เพราะการไฮปาร์กฝ่ายเดียวบนเวทีไม่น่านำไปสู่ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ และการใช้วาทกรรมล้มระบอบทักษิณ ก็เป็นวาทกรรมลวงที่ปลุกเร้าประชาชนเท่านั้น ประเทศไทยมีระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และรัฐบาลเข้าสู่อำนาจโดยการเลือกตั้ง เพียงแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจมีผลงานที่คนจดจำได้มากกว่าคนอื่น เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน โอทอป สนามบินสุวรรณภูมิ การให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนไปเรียนต่างประเทศ ดังนั้นคำว่าระบอบทักษิณจึงไม่มีอยู่จริง
นายนพดล ระบุด้วยว่า ตอนนี้ทุกคนมีสิทธิ์นำเสนอความเห็นของตน ส่วนการที่มีกลุ่ม 40 ส.ว.ที่เสนอให้ตระกูลชินวัตรเลิกเล่นการเมืองนั้น ตนอยากถามว่า แล้วปัญหาของประเทศจะยุติหรือไม่ ตนเห็นว่าปัญหาของประเทศไม่ใช่เรื่องคนตระกูลหนึ่งตระกูลใด แต่เป็นเรื่องระบบ กติกา และวัฒนธรรมประชาธิปไตย เราต้องสร้างระบบให้เป็นประชาธิปไตยและเข้มแข็ง ส่วนใคร นามสกุลใด ถ้ามีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ก็สามารถใช้สิทธิ์เสรีภาพเท่าเทียมกับคนไทยคนอื่นๆ ดังนั้นอย่านำระบบเลือกปฏิบัติ แบ่งแยกคน เช่นที่ยกเลิกในประเทศแอฟริกาใต้ มาใช้ในประเทศไทย
