นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.ขัดต่อรัฐธรรมนูญว่า เห็นได้ชัดว่าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า รัฐธรรมนูญปี 50 ดีกว่ารัฐธรรมนูญปี 40 และเห็นว่าการสรรหา ส.ว.จะช่วยถ่วงดุลได้ดีกว่า ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งในส่วนนี้ตนอยากตั้งคำถามกลับว่า การสรรหา ส.ว.ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตยตรงไหน เมื่อการสรรหามาจากคนเพียง 7 คน จะดีกว่าการให้สิทธิ์คนทั้งประเทศเลือก ส.ว.ได้อย่างไร โดยส่วนตัวจึงรับไม่ได้กับคำวินิจฉัยดังกล่าว โดยเฉพาะการเอาประเด็นเรื่องเล็กน้อย เช่น การกดบัตรแทนกัน ซึ่งเป็นการกระทำเพียงไม่กี่เสียง แต่การลงมติทั้งหมดมีคะแนนเสียงชนะมากกว่าที่เกิดขึ้น
นายจารุพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ผลคำวินิจฉัยของศาลจะทำให้สังคมแตกร้าว และแบ่งแยกชัดเจนขึ้น เพราะฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยกับอำนาจที่มาจากประชาชนแต่ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยกับอำนาจที่มาจากคนเพียงไม่กี่คน จึงรับไม่ได้ เชื่อว่าความแตกแยกทางความคิดที่มีอยู่จะรุนแรงกว่าเดิม เพราะประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิ์ในการเลือก ส.ว.จะรับไม่ได้กับคำวินิจฉัย
นายจารุพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ผลคำวินิจฉัยของศาลจะทำให้สังคมแตกร้าว และแบ่งแยกชัดเจนขึ้น เพราะฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยกับอำนาจที่มาจากประชาชนแต่ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยกับอำนาจที่มาจากคนเพียงไม่กี่คน จึงรับไม่ได้ เชื่อว่าความแตกแยกทางความคิดที่มีอยู่จะรุนแรงกว่าเดิม เพราะประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิ์ในการเลือก ส.ว.จะรับไม่ได้กับคำวินิจฉัย