นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวภายหลังรับฟังผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า รู้สึกพอใจและขอบคุณศาลที่มีคำวินิจฉัยดังกล่าวออกมา เพื่อเป็นบรรทัดฐานกับการทำหน้าที่ของประธานและสมาชิกรัฐสภาในอนาคต พร้อมเห็นว่ากรณีที่ศาลตัดสินว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว.ไม่ชอบ เนื่องจากกรอบการแก้ไขและกระบวนการการแปรญัตติ และการลงมติแทนกันไม่ชอบนั้น น่าจะส่งผลให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก 2 ฉบับ คือ มาตรา 190 และมาตรา 68 กับ 237 ไม่ชอบด้วยเช่นกัน ทำให้มีผลตกไป ซึ่งหากรัฐบาลจะดำเนินการยื่นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกจะต้องไม่ให้มีเนื้อหาเช่นเดียวกับร่างเดิม
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ศาลระบุว่าผู้ร้องที่ 1 คือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และผู้ถูกร้องที่ 2 คือ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา ปฏิบัติโดยมิชอบนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดต่อไป
ส่วนสมาชิกรัฐสภาทั้ง 312 คน ก่อนหน้านี้มีสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนได้ดำเนินการยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ศาลระบุว่าผู้ร้องที่ 1 คือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และผู้ถูกร้องที่ 2 คือ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา ปฏิบัติโดยมิชอบนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดต่อไป
ส่วนสมาชิกรัฐสภาทั้ง 312 คน ก่อนหน้านี้มีสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนได้ดำเนินการยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ไปแล้ว