นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ ว่า การชุมนุมประท้วงเริ่มที่จะสงบลง ตนเชื่อว่าประเทศต่างๆ เข้าใจและรับได้ เพราะเป็นการชุมนุมแสดงออกภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือการชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องให้มีขบวนการที่ไม่ เป็นประชาธิปไตย เช่น การปลุกกระแสให้ทหารปฏิวัติรัฐประหาร
ทั้งนี้ การที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นสิ่งที่ดี เพราะป็นการสู้กันในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนคิดว่าเป็นการใช้กระบวนการในระบอบ ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง สิ่งใดที่ฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐบาลทำไม่ถูก ก็ให้นำมาอภิปราย ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องนำเสนอข้อมูลชี้แจงว่า ได้ทำอะไรไปบ้างเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจและตัดสินใจจากการฟังการอภิปราย อย่างไรก็ตาม ถ้าบรรยากาศการเมืองสงบจะเป็นประโยชน์กับประเทศ เพราะขณะนี้เป็นช่วงไฮซีซัน ทั้งเทศกาลลอยกระทง คริสต์มาส และปีใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมา
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณฝ่ายค้านที่หันกลับมาใช้กระบวนการในรัฐสภา ดีกว่าที่จะไปต่อสู้ข้างถนน สังคมไทยจะได้มีความสงบ ประเทศชาติจะได้เดินหน้าต่อไป เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนจะได้เจริญเติบโตได้
อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกเป็นห่วงว่าฝ่ายค้านอาจหยิบยกกรณีปราสาทพระวิหารมาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสภาฯ ด้วย เพราะวันนี้คนไทยเข้าใจดี และนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าคณะต่อสู้คดีฝ่ายไทย ได้ชี้แจงประเด็นต่างๆ อย่างชัดเจนแล้ว มีเพียงบางเรื่องที่เปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากจะต้องใช้ในกระบวนการเจรจากับกัมพูชา และสิ่งที่ฝ่ายค้านพูดมาก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าเป็นการคิดหรือจินตนาการไปเอง แต่ตนเป็นห่วงว่าฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้มาเล่นการเมือง ด้วยการปลุกกระแสโดยใช้ข้อมูลที่ผิด
ส่วนความคืบหน้าหลังคำพิพากษาของศาลโลกนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า มีการแบ่งทีมงานเป็น 2 คณะ คือฝ่ายวิเคราะห์ผลและการดำเนินการต่อไปเพื่อแนะแนวทางให้รัฐบาลที่มีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นหัวหน้า ซึ่งคณะนี้จะมีทีมทนายอยู่ด้วย อีกคณะทำหน้าที่แปลคำพิพากษาเป็นภาษาไทยอย่างเป็นทางการ มีนายวรเดช วีรเวคิน อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งตอนนี้ต้องแปลคำพิพากษาให้ละเอียด รอบคอบและชัดเจนก่อนเพื่อไม่ไห้เกิดความผิดพลาด เบื้องต้นจะประชุมหารือกันในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ แต่กว่าจะเริ่มกระบวนการเจรจาต้องใช้เวลา
ทั้งนี้ การที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นสิ่งที่ดี เพราะป็นการสู้กันในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนคิดว่าเป็นการใช้กระบวนการในระบอบ ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง สิ่งใดที่ฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐบาลทำไม่ถูก ก็ให้นำมาอภิปราย ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องนำเสนอข้อมูลชี้แจงว่า ได้ทำอะไรไปบ้างเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจและตัดสินใจจากการฟังการอภิปราย อย่างไรก็ตาม ถ้าบรรยากาศการเมืองสงบจะเป็นประโยชน์กับประเทศ เพราะขณะนี้เป็นช่วงไฮซีซัน ทั้งเทศกาลลอยกระทง คริสต์มาส และปีใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมา
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณฝ่ายค้านที่หันกลับมาใช้กระบวนการในรัฐสภา ดีกว่าที่จะไปต่อสู้ข้างถนน สังคมไทยจะได้มีความสงบ ประเทศชาติจะได้เดินหน้าต่อไป เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนจะได้เจริญเติบโตได้
อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกเป็นห่วงว่าฝ่ายค้านอาจหยิบยกกรณีปราสาทพระวิหารมาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสภาฯ ด้วย เพราะวันนี้คนไทยเข้าใจดี และนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าคณะต่อสู้คดีฝ่ายไทย ได้ชี้แจงประเด็นต่างๆ อย่างชัดเจนแล้ว มีเพียงบางเรื่องที่เปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากจะต้องใช้ในกระบวนการเจรจากับกัมพูชา และสิ่งที่ฝ่ายค้านพูดมาก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าเป็นการคิดหรือจินตนาการไปเอง แต่ตนเป็นห่วงว่าฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้มาเล่นการเมือง ด้วยการปลุกกระแสโดยใช้ข้อมูลที่ผิด
ส่วนความคืบหน้าหลังคำพิพากษาของศาลโลกนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า มีการแบ่งทีมงานเป็น 2 คณะ คือฝ่ายวิเคราะห์ผลและการดำเนินการต่อไปเพื่อแนะแนวทางให้รัฐบาลที่มีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นหัวหน้า ซึ่งคณะนี้จะมีทีมทนายอยู่ด้วย อีกคณะทำหน้าที่แปลคำพิพากษาเป็นภาษาไทยอย่างเป็นทางการ มีนายวรเดช วีรเวคิน อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งตอนนี้ต้องแปลคำพิพากษาให้ละเอียด รอบคอบและชัดเจนก่อนเพื่อไม่ไห้เกิดความผิดพลาด เบื้องต้นจะประชุมหารือกันในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ แต่กว่าจะเริ่มกระบวนการเจรจาต้องใช้เวลา