พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่ นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกยิงเสียชีวิต โดยตำรวจสามารถจับ น.ส.วรพรรณภูรี หรือ แหม่ม มนตรีอารีกุล ได้เพิ่มเติม หลังนายจิรศักดิ์ กลิ่นคล้าย มือปืนผู้ก่อเหตุได้ซัดทอดว่า น.ส.วรพรรณภูรีมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้
จากการคำให้การของนายจิรศักดิ์ ซึ่งเป็นมือปืนอ้างว่า น.ส.วรพรรณภูรี เป็นผู้ติดต่อให้ไปยิง นายจักรกฤษณ์ และ น.ส.วรพรรณภูรี ให้การยอมรับด้วยว่า มีความสนิทสนมกับ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ และรู้จักกับ นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของ พญ.นิธิวดี ที่มักจะเล่าให้ฟังว่า พญ.นิธิวดี มักถูกนายจักรกฤษณ์ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ โดย น.ส.วรพรรณภูรีเกิดความรู้สึกเห็นใจ จึงแนะนำให้รู้จักกับนายสันติ ทองเสน หรือทนายอี๊ด ก่อนมีการตกลงว่าจ้างให้นายสันติ จัดหาทีมมือปืนรับงานครั้งนี้ ซึ่งนางสุรางค์ ได้มอบเงินค่าจ้างให้นายสันติ เป็นเงิน 600,000 บาท
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การสอบสวนขณะนี้มีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึง พญ.นิธิวดี และมารดา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งตำรวจเตรียมขยายผลการสอบสวน และเตรียมขออนุมัติหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายมานพบิดาของ นายจักรกฤษณ์ เปิดเผยว่า จะปล่อยให้คดีเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง แม้ส่วนตัวจะเชื่อ และพอจะทราบว่า ใครเป็นผู้จ้างวานในคดี แต่ไม่ต้องการพูดถึง และขอให้เป็นไปตามกฎแห่งกรรม
จากการคำให้การของนายจิรศักดิ์ ซึ่งเป็นมือปืนอ้างว่า น.ส.วรพรรณภูรี เป็นผู้ติดต่อให้ไปยิง นายจักรกฤษณ์ และ น.ส.วรพรรณภูรี ให้การยอมรับด้วยว่า มีความสนิทสนมกับ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ และรู้จักกับ นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของ พญ.นิธิวดี ที่มักจะเล่าให้ฟังว่า พญ.นิธิวดี มักถูกนายจักรกฤษณ์ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ โดย น.ส.วรพรรณภูรีเกิดความรู้สึกเห็นใจ จึงแนะนำให้รู้จักกับนายสันติ ทองเสน หรือทนายอี๊ด ก่อนมีการตกลงว่าจ้างให้นายสันติ จัดหาทีมมือปืนรับงานครั้งนี้ ซึ่งนางสุรางค์ ได้มอบเงินค่าจ้างให้นายสันติ เป็นเงิน 600,000 บาท
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การสอบสวนขณะนี้มีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึง พญ.นิธิวดี และมารดา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งตำรวจเตรียมขยายผลการสอบสวน และเตรียมขออนุมัติหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายมานพบิดาของ นายจักรกฤษณ์ เปิดเผยว่า จะปล่อยให้คดีเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง แม้ส่วนตัวจะเชื่อ และพอจะทราบว่า ใครเป็นผู้จ้างวานในคดี แต่ไม่ต้องการพูดถึง และขอให้เป็นไปตามกฎแห่งกรรม
