นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่ศาลโลกจะมีการอ่านคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีพื้นที่แนวชายแดนติดต่อกับประเทศกัมพูชา ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมรองรับกับสถานการณ์ความรุนแรงหากเกิดขึ้นภายหลังศาลฯ มีคำตัดสิน โดยมีการเตรียมการช่วยเหลือประชาชนตามแผนการอพยพ การเร่งซ่อมแซมหลุมหลบภัยและถนนหนทางที่ชำรุดจากน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุด ชรบ. ดูแลรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน โดยเฉพาะได้แจ้งนายอำเภอและผู้นำท้องถิ่น เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนให้ทราบถึงข่าวสาร และสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
โดยย้ำให้เตรียมความพร้อมของตนเอง จากบทเรียนที่เคยเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงมาแล้วเมื่อปี 2554
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ตามแนวชายแดน พบว่าปัจจุบันในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ยังเป็นไปตามปกติ ประชาชนต่างมีความมั่นใจในสถานการณ์ จึงออกไปประกอบอาชีพได้เป็นปกติ รวมทั้งการค้าขายที่ผ่านบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ก็มีการแลกเปลี่ยนค้าขายสินค้ากันตามปกติ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในระดับพื้นที่ ก็มีความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นอย่างดี
โดยย้ำให้เตรียมความพร้อมของตนเอง จากบทเรียนที่เคยเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงมาแล้วเมื่อปี 2554
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ตามแนวชายแดน พบว่าปัจจุบันในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ยังเป็นไปตามปกติ ประชาชนต่างมีความมั่นใจในสถานการณ์ จึงออกไปประกอบอาชีพได้เป็นปกติ รวมทั้งการค้าขายที่ผ่านบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ก็มีการแลกเปลี่ยนค้าขายสินค้ากันตามปกติ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในระดับพื้นที่ ก็มีความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นอย่างดี
