สุรินทร์ - ชายแดนสุรินทร์หลังศาลโลกตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร สถานการณ์ยังปกติ แต่ตลาดการค้าชายแดนตลาดช่องจอมค่อนข้างเงียบเหงา ส่วนทหารไทย-เขมรด้านปราสาทตาควายยืนยันจูงมือกินข้าวตามที่นัดหมาย ส่วนโรงเรียน 11 แห่งยังปิดต่อ
วันนี้ (12 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ หลังศาลโลกตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งหลายฝ่ายต่างวิตกกังวลว่าสถานการณ์อาจจะต้องส่งผลกระทบต่อความขัดแย้งและความสัมพันธ์อันดีกับ 2 ประเทศ และจะส่งผลให้เกิดสงครามตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามที่หลายฝ่ายกังวลเหมือนกับที่ผ่านมา
หลังจากศาลโลกพิจารณาตัดสินคดีปราสาทพระวิหารผ่านไปกว่า 1 คืน ก็ยังไม่พบว่าเกิดสถานการณ์รุนแรงและสุ่มเสี่ยงที่จะลุกลามต่อยอดให้เกิดสงครามขึ้นในพื้นที่เหมือนกับสงครามชายแดนเมื่อ 2 ปีกว่าที่ผ่านมา
ขณะที่ชาวบ้านชายแดนก็ยังคงดำเนินชีวิตออกไปทำไร่นาและกรีดยางพาราตามปกติ ถึงแม้บางส่วน โดยเฉพาะคนชราจะเดินทางออกนอกพื้นที่เพื่อไปขออาศัยบ้านญาติพี่น้องต่างอำเภอไปจนกว่าจะมั่นใจในสถานการณ์จะปกติ และรอดูท่าทีของรัฐบาลและทหารในพื้นที่ว่าจะมีท่าทีและทางออกไปในทิศทางใด
ในส่วนของโรงเรียนตามแนวชายแดนรวม 11 แห่งของ จ.สุรินทร์ ที่อยู่ใกล้แนวชายแดน ก็ยังคงปิดการเรียนการสอนเป็นวันที่ 2 จนกว่าจะเชื่อมั่นว่าไม่เกิดสงครามเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียนชายแดนในช่วง 1-2 วันนี้
ด้านตลาดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ตลาดช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และที่ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง บรรยากาศการเดินทางผ่านแดน เพื่อเข้ามาค้าขายในตลาดช่องจอมของชาวกัมพูชาเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิงบอกว่า การขอผ่านแดนเข้ามาในฝั่งไทยของชาวกัมพูชาในวันนี้เงียบเหงาลงไปมาก คาดว่าพ่อค้า แม่ค้า ชาวกัมพูชาหวั่นว่าสถานการณ์อาจไม่สงบ จึงพากันเดินทางกลับจังหวัดเสียมราฐ และจังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในอีก 2 วันหากไม่มีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น