สุรินทร์ - ทหารไทย-เขมรระดับผู้บังคับหน่วยพื้นที่ชายแดนพบปะจูบปากกันอีกที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อหารือแนวทางปฏิบัติหลังศาลโลกตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร และเลื่อนนัดกินข้าวเที่ยงร่วมกันเป็นพรุ่งนี้ (12 พ.ย.) เผย ร.ร.ชายแดนสุรินทร์ปิดแล้ว 11 แห่ง ผู้ปกครองผวาภัยสู้รบเตรียมพาลูกหลานอพยพ
วันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ชายแดนไทย-กัมพูชา คณะนายทหารระดับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ชายแดนด้านปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก ทั้งไทยและกัมพูชา ได้พบปะหารือกันถึงแนวทางปฏิบัติของทหารทั้งสองฝ่าย ทั้งก่อนและหลังที่ศาลโลกจะตัดสินคดีปราสาทพระวิหารในช่วงเย็นของวันนี้ บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ทั้งนี้เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ของทหารทั้งสองฝ่าย ซึ่งได้รับคำสั่งมาจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี และเป็นการปฏิบัติตามที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้กำชับทหารกัมพูชาทุกนายในพื้นที่ด้วย เพื่อย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีและจุดยืนของทหารทั้งสองประเทศที่จะไม่ใช้ความรุนแรง เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้วางใจในสถานการณ์
เจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่งระบุว่า วันนี้เป็นเพียงการพบปะพูดคุยกันธรรมดาระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาเท่านั้น โดยได้มีการเลื่อนกำหนดนัดหมายรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกันจากเดิมวันนี้ (11 พ.ย.) ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.) และไม่อนุญาตให้เข้าไปที่บริเวณตัวปราสาทตาควาย ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การพบปะกันหารือกันระหว่างคณะนายทหารระดับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ชายแดนด้านปราสาทตาควายของไทยและกัมพูชาในวันนี้ (11 พ.ย.) ฝ่ายไทยนำโดย พ.ต.สมควร ชัยนิตย์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 2602 และ พ.ท.กฤษฎา อารีรมณ์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 2606 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ทหารไทย ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พ.ท.ปาง พุด รองเสนาธิการทหารประจำ จ.อุดรมีชัย พร้อมคณะนายทหารกัมพูชาในพื้นที่กว่า 10 นาย ซึ่งการพบปะหารือกันดังกล่าวเป็นไปด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง ไม่ตึงเครียด แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทหารทั้งสองฝ่ายในพื้นที่
ส่วนบรรยากาศตามหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ล่าสุดวันนี้ (11 พ.ย.) ประชาชนยังคงใช้ชีวิตออกไปทำไร่นาและกรีดยางตามปกติ แต่มีบางส่วนที่วิตกกังวลเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงหรือการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้น ขณะที่โรงเรียนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่ชายแดนด้านปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก และปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก ได้สั่งปิดทำการเรียนการสอนจำนวน 11 แห่ง เพื่อเตรียมความพร้อมและติดตามสถานการณ์ชายแดนอย่างใกล้ชิด
ขณะที่โรงเรียนตามแนวชายแดนอีกหลายแห่งที่ยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติก็เต็มไปด้วยความเงียบเหงา นักเรียนพากันมาเรียนหนังสือน้อยกว่าปกติ เนื่องจากผู้ปกครองหวั่นวิตกต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จึงให้ลูกหลานหยุดเรียนอยู่กับบ้าน ซึ่งหากเกิดสถานการณ์รุนแรงหรือมีการสู้รบเกิดขึ้นจะได้พาลูกหลานอพยพได้ทันที
