รพ.สังกัด ทบ.-สธ. ระดมซ้อมแผนเผชิญเหตุปะทะเดือดชายแดนสุรินทร์

สุรินทร์ - รพ.สังกัดกองทัพบก ร่วม รพ.สังกัด ก.สาธารณสุข ระดมกำลัง จนท.ทหาร แพทย์ พยาบาล ซ้อมแผนเผชิญเหตุปะทะเดือดชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควาย-ตาเมือนธม จ.สุรินทร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ และช่วยเหลือชีวิตเหล่าทหารปฏิบัติหน้าที่ชายแดนให้ได้รับความปลอดภัยสูงสุด

วันนี้ (27 ก.พ.) เวลา 13.00 น. ที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พล.ต.ผสิน บัวแสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) และนายแพทย์ใหญ่กองทัพบก (ทบ.) พร้อมคณะนายทหารหน่วยแพทย์โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ หน่วยแพทย์เสนารักษ์ กองพลทหารราบที่ 6 กองทัพภาคที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย โรงพยาบาลพนมดงรัก โรงพยาบาลกาบเชิง โรงพยาบาลปราสาท และโรงพยาบาลบัวเชด ได้สนธิกำลังกันร่วมซ้อมแผนเผชิญเหตุสถานการณ์ชายแดน ปีงบประมาณ 2556

โดยได้จำลองสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติไทยที่บริเวณปราสาทตาควาย บ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่ที่ 17 ต.บักได และ ปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งหลังเกิดการสู้รบได้มีการนำทหารที่ได้รับบาดเจ็บออกจากพื้นที่แนวหน้าการปะทะมาทำการปฐมพยาบาล และลำเลียงเคลื่อนย้ายด้วยรถยนต์ของหน่วยทหารเสนารักษ์ เพื่อส่งต่อไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลส่วนหลัง ทั้งโรงพยาบาลพนมดงรัก โรงพยาบาลกาบเชิง โรงพยาบาลปราสาท และโรงพยาบาลบัวเชด

จากนั้นได้คัดแยกผู้บาดเจ็บ และส่งต่อผู้ป่วยหนักเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ หรือโรงพยาบาลศูนย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ทันสมัย โดยใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าสนับสนุนลำเลียงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูงสุด

ทั้งนี้ ตลอดการซ้อมแผนเผชิญเหตุ พล.ต.ผศิน บัวแสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี และนายแพทย์ใหญ่กองทับพก ได้เข้ากำกับการปฏิบัติ ทั้งบริเวณพื้นที่รับผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากแนวหน้าปะทะของหน่วยทหารเสนารักษ์ และทีมแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลต่างๆ ที่สนธิกำลังเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงาน ซึ่งต้องไปเป็นไปตามมาตรฐาน มีเครื่องมือแพทย์พยาบาลสนามที่มีความพร้อมในการปฏิบัติสามารถช่วยเหลือชีวิตทหารได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดการสูญเสีย และมีการวิเคราะห์ประเมินผลการปฏิบัติซ้อมแผนเผชิญเหตุครั้งนี้อย่างรอบด้าน เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป เช่น อุปกรณ์เครื่องมือ รถยนต์ที่นำมาใช้ลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บไม่มีความพร้อมไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น