น.ส.ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อผลงานรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และข่าวลือการปรับ ครม. โดยศึกษาระหว่างวันที่ 2-5 ตุลาคม จากตัวอย่างประชาชนผู้ที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ของประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา จำนวน 1,885 ตัวอย่าง พบว่าความพึงพอใจในผลงานรัฐบาล โดยภาพรวมขณะนี้ พบว่ากลุ่มตัวอย่างเกินครึ่ง หรือร้อยละ 51.7 พอใจระดับปานกลาง ขณะที่ร้อยละ 36.2 พอใจน้อยถึงน้อยที่สุด และร้อยละ 12.1 พอใจมากถึงมากที่สุด
ส่วนความคิดเห็นต่อความเป็นไปได้ ว่ารัฐบาลจะสามารถทำงานต่อไปจนครบวาระ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 69 คิดว่ายาก เพราะผลลัพธ์จากนโยบายพ่นพิษของรัฐบาล ความขัดแย้งทางการเมือง และมวลชน และปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นต้น ขณะที่ร้อยละ 31% คิดว่าเป็นไปได้ เพราะรัฐบาลแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหา และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศแก่นานาชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ ข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 60.9 คิดว่าเป็นเรื่องจริง ขณะที่ร้อยละ 39.1 คิดว่าเป็นข่าวลือ อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 56.6 คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่ควรจะปรับคณะรัฐมนตรี เพราะเพิ่งปรับมาไม่นาน ส่วนร้อยละ 43.4% เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะปรับคณะรัฐมนตรี
สำหรับ 5 อันดับแรกของตัวอย่างที่ระบุ ความคิดเห็นต่อกระทรวงที่ควรถูกปรับมากที่สุดหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และกระทรวงศึกษาธิการ
อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 56 เห็นว่าหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี ก็จะทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลยังคงเหมือนเดิม ขณะที่ร้อยละ 28.3 เห็นว่าจะดีขึ้น ส่วนอีกร้อยละ 15.7 มองว่าแย่ลง
ส่วนความคิดเห็นต่อความเป็นไปได้ ว่ารัฐบาลจะสามารถทำงานต่อไปจนครบวาระ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 69 คิดว่ายาก เพราะผลลัพธ์จากนโยบายพ่นพิษของรัฐบาล ความขัดแย้งทางการเมือง และมวลชน และปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นต้น ขณะที่ร้อยละ 31% คิดว่าเป็นไปได้ เพราะรัฐบาลแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหา และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศแก่นานาชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ ข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 60.9 คิดว่าเป็นเรื่องจริง ขณะที่ร้อยละ 39.1 คิดว่าเป็นข่าวลือ อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 56.6 คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่ควรจะปรับคณะรัฐมนตรี เพราะเพิ่งปรับมาไม่นาน ส่วนร้อยละ 43.4% เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะปรับคณะรัฐมนตรี
สำหรับ 5 อันดับแรกของตัวอย่างที่ระบุ ความคิดเห็นต่อกระทรวงที่ควรถูกปรับมากที่สุดหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และกระทรวงศึกษาธิการ
อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 56 เห็นว่าหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี ก็จะทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลยังคงเหมือนเดิม ขณะที่ร้อยละ 28.3 เห็นว่าจะดีขึ้น ส่วนอีกร้อยละ 15.7 มองว่าแย่ลง
