น.ส.ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัย เรื่อง "ปลงกับความเบื่อหน่ายทางการเมืองและความเชื่อมั่นต่องบประมาณปี 57 ของประชาชน" จากตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปี ขึ้นไป ใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 2,127 ตัวอย่าง โดยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.6 ไม่เชื่อว่างบประมาณจะถูกนำไปใช้อย่างโปร่งใส ขณะที่ร้อยละ 22.4 เชื่อว่าจะถูกนำไปใช้อย่างโปร่งใส
นอกจากนี้ ร้อยละ 72.9 ไม่เชื่อว่างบประมาณประจำปี 2557 จะถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรม เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันทั่วทั้งประเทศ ขณะที่ร้อยละ 27.1 เชื่อว่าจะถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรม
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับนิสัยนักการเมืองไทย ควรแก้อะไรก่อน พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 89.2 ระบุว่า ควรแก้นิสัยนักการเมืองก่อน มีเพียงร้อยละ 10.8 ที่ระบุว่าควรแก้รัฐธรรมนูญก่อน และเมื่อสอบถามว่า ฝ่ายการเมืองควรเร่งทำอะไรมากกว่ากัน ระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 85.8 ระบุว่า ควรเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนและปัญหาปากท้องของประชาชนก่อน ขณะที่ร้อยละ 14.2 ระบุ ควรเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน
สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 81.5 รู้สึกเบื่อและปลงกับการเมืองไทย เพราะมีข่าวความขัดแย้ง ความวุ่นวายได้ทุกวัน และร้อยละ 18.5 ไม่รู้สึกอะไร ส่วนที่น่าพิจารณา คือ เมื่อนึกถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศอียิปต์ มีความกังวลว่า ประเทศไทยอาจเกิดความขัดแย้งบานปลายจนถึงขั้นต้องใช้ความรุนแรงหรือไม่ พบว่าร้อยละ 42.4 รู้สึกกังวล เพราะต่างคนต่างไม่ยอมกัน พรรคการเมืองต่างทำงาน จึงยากต่อการปรองดอง การเจรจามักอยู่บนพื้นฐานของอารมณ์มากกว่าเหตุผล ขณะที่ ร้อยละ 57.6 ไม่รู้สึกกังวล
อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 76.1 ระบุว่า ยังมีความหวังความปรองดอง เยียวยาความแตกแยกของคนในชาติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ถ้าหากได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และร้อยละ 23.9 ระบุว่า ไม่มีความหวัง
นอกจากนี้ ร้อยละ 72.9 ไม่เชื่อว่างบประมาณประจำปี 2557 จะถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรม เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันทั่วทั้งประเทศ ขณะที่ร้อยละ 27.1 เชื่อว่าจะถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรม
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับนิสัยนักการเมืองไทย ควรแก้อะไรก่อน พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 89.2 ระบุว่า ควรแก้นิสัยนักการเมืองก่อน มีเพียงร้อยละ 10.8 ที่ระบุว่าควรแก้รัฐธรรมนูญก่อน และเมื่อสอบถามว่า ฝ่ายการเมืองควรเร่งทำอะไรมากกว่ากัน ระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 85.8 ระบุว่า ควรเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนและปัญหาปากท้องของประชาชนก่อน ขณะที่ร้อยละ 14.2 ระบุ ควรเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน
สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 81.5 รู้สึกเบื่อและปลงกับการเมืองไทย เพราะมีข่าวความขัดแย้ง ความวุ่นวายได้ทุกวัน และร้อยละ 18.5 ไม่รู้สึกอะไร ส่วนที่น่าพิจารณา คือ เมื่อนึกถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศอียิปต์ มีความกังวลว่า ประเทศไทยอาจเกิดความขัดแย้งบานปลายจนถึงขั้นต้องใช้ความรุนแรงหรือไม่ พบว่าร้อยละ 42.4 รู้สึกกังวล เพราะต่างคนต่างไม่ยอมกัน พรรคการเมืองต่างทำงาน จึงยากต่อการปรองดอง การเจรจามักอยู่บนพื้นฐานของอารมณ์มากกว่าเหตุผล ขณะที่ ร้อยละ 57.6 ไม่รู้สึกกังวล
อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 76.1 ระบุว่า ยังมีความหวังความปรองดอง เยียวยาความแตกแยกของคนในชาติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ถ้าหากได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และร้อยละ 23.9 ระบุว่า ไม่มีความหวัง
