เมื่อเวลา 17.00 น. ที่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ร่วมพิธีปฐมนิเทศผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน โดยมีผู้เข้ารับการปฐมนิเทศ จำนวน 24 คน
ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ผู้ว่าฯ สมัยใหม่ โดยต้องมีจิตวิญญาณแบบนักธุรกิจ เพราะจะเป็นนักปกครองอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความรู้แบบบูรณาการ และมีความรู้ด้านธุรกิจ เพื่อให้ได้การยอมรับจากหอการค้าจังหวัดด้วย
นอกจากนั้น ยังต้องเป็นนักประชาสัมพันธ์ไปในตัว และต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีวิสัยทัศน์ สามารถนำนวัตกรรมด้านการบริหารจัดการใหม่ๆ มาพัฒนาหน่วยงานภาครัฐให้มีศักยภาพ โดยด้านการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ต้องให้ปรับแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ให้เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ประเทศ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ภายใต้ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่จะช่วยลดค่าการขนส่ง และควรช่วยดูโครงการการบริหารการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ในจังหวัดของตน และตนขอสั่งการเรื่องการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนด้วย เพราะเป็นยุทธศาสตร์ที่นายกรัฐมนตรี มุ่งหวัง รวมทั้งสร้างการรับรู้ และสร้างความเข้าใจต่อนโยบายรัฐบาล แนวทางการบริหารประเทศและการดำเนินงานต่างๆ ของรัฐบาลให้แก่ประชาชน โดยการทำการประชาสัมพันธ์ เชิงลึก จึงอยากให้ผู้ว่าฯ ใหม่ลองทำประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียด้วย และผู้ว่าฯ ควรผลักดันให้มีการเปิดเวทีเสวนา เพื่อลดความขัดแย้งในจังหวัดด้วย
พร้อมกันนี้ ขอให้ผู้ว่าฯ เตรียมความพร้อมในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ซึ่งประเทศไทยมักจะต้องประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นประจำทุกปี ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม เพื่อป้องกันและบรรเทาความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งผมหวังว่าผู้ว่าฯ ใหม่จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง และจะไม่ทำให้กระทรวงมหาดไทยเสียชื่อเสียง และเรื่องสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจกับประชาชนในการเดินหน้าโครงการต่างๆ ของรัฐบาล
ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ผู้ว่าฯ สมัยใหม่ โดยต้องมีจิตวิญญาณแบบนักธุรกิจ เพราะจะเป็นนักปกครองอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความรู้แบบบูรณาการ และมีความรู้ด้านธุรกิจ เพื่อให้ได้การยอมรับจากหอการค้าจังหวัดด้วย
นอกจากนั้น ยังต้องเป็นนักประชาสัมพันธ์ไปในตัว และต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีวิสัยทัศน์ สามารถนำนวัตกรรมด้านการบริหารจัดการใหม่ๆ มาพัฒนาหน่วยงานภาครัฐให้มีศักยภาพ โดยด้านการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ต้องให้ปรับแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ให้เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ประเทศ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ภายใต้ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่จะช่วยลดค่าการขนส่ง และควรช่วยดูโครงการการบริหารการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ในจังหวัดของตน และตนขอสั่งการเรื่องการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนด้วย เพราะเป็นยุทธศาสตร์ที่นายกรัฐมนตรี มุ่งหวัง รวมทั้งสร้างการรับรู้ และสร้างความเข้าใจต่อนโยบายรัฐบาล แนวทางการบริหารประเทศและการดำเนินงานต่างๆ ของรัฐบาลให้แก่ประชาชน โดยการทำการประชาสัมพันธ์ เชิงลึก จึงอยากให้ผู้ว่าฯ ใหม่ลองทำประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียด้วย และผู้ว่าฯ ควรผลักดันให้มีการเปิดเวทีเสวนา เพื่อลดความขัดแย้งในจังหวัดด้วย
พร้อมกันนี้ ขอให้ผู้ว่าฯ เตรียมความพร้อมในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ซึ่งประเทศไทยมักจะต้องประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นประจำทุกปี ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม เพื่อป้องกันและบรรเทาความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งผมหวังว่าผู้ว่าฯ ใหม่จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง และจะไม่ทำให้กระทรวงมหาดไทยเสียชื่อเสียง และเรื่องสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจกับประชาชนในการเดินหน้าโครงการต่างๆ ของรัฐบาล