หลังนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทำการวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่มาของ ส.ว.โดยระบุเหตุผลถึงความเหมาะสม และความจำเป็นในการต้องมี ส.ว.สรรหาต่อไป โดยเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 2
ในวันนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ระบุว่า จะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ประกอบมาตรา 62 เพื่อร้องศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยว่า นายวิรัตน์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่สนับสนุนการดำเนินการของนายวิรัตน์ ได้กระทำการเพื่อให้ได้มา ซึ่งการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่า การกระทำของบุคคลทั้งสองมีข้อเท็จจริง และคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม เนื่องจากการเสนอญัตติแก้ไขเป็นรายมาตราดำเนินการโดยกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้ว และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญพรรคประชาธิปัตย์ เคยดำเนินการมาแล้ว ในช่วงที่ นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเลือกตั้ง ส.ส. ดังนั้นการกล่าวอ้างใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญของนายวิรัตน์ ภายใต้ความยินยอม และมอบหมายจากพรรคประชาธิปัตย์ จึงอาจจะมีลักษณะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 2 โดยไม่มีมูล หรือข้อเท็จจริงตามรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงการคาดการณ์ไปเอง และอ้างสิทธิเสรีภาพร้องต่อศาล และยังเป็นการกระทำที่ขัด หรือแย้งต่อคำวินิจฉัยและคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่วางไว้ด้วย
วันนี้จึงจะไปยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สั่งการให้เลิกกระทำการดังกล่าว และขอให้สั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 3 พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 4
ในวันนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ระบุว่า จะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ประกอบมาตรา 62 เพื่อร้องศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยว่า นายวิรัตน์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่สนับสนุนการดำเนินการของนายวิรัตน์ ได้กระทำการเพื่อให้ได้มา ซึ่งการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่า การกระทำของบุคคลทั้งสองมีข้อเท็จจริง และคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม เนื่องจากการเสนอญัตติแก้ไขเป็นรายมาตราดำเนินการโดยกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้ว และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญพรรคประชาธิปัตย์ เคยดำเนินการมาแล้ว ในช่วงที่ นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเลือกตั้ง ส.ส. ดังนั้นการกล่าวอ้างใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญของนายวิรัตน์ ภายใต้ความยินยอม และมอบหมายจากพรรคประชาธิปัตย์ จึงอาจจะมีลักษณะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 2 โดยไม่มีมูล หรือข้อเท็จจริงตามรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงการคาดการณ์ไปเอง และอ้างสิทธิเสรีภาพร้องต่อศาล และยังเป็นการกระทำที่ขัด หรือแย้งต่อคำวินิจฉัยและคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่วางไว้ด้วย
วันนี้จึงจะไปยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สั่งการให้เลิกกระทำการดังกล่าว และขอให้สั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 3 พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 4
