“เครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน” ยื่นศาล รธน.วินิจฉัยแก้ที่มา ส.ว. ระบุส่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบรัฐ ขัด ม.291 ผู้เสนอร่างขัด ม.68 ชัด ชี้แก้กระทบวุฒิฯ ครม.ต้องประชามติ แถมแก้โดยขัดกันแห่งผลประโยชน์ตาม ม.122 ขอศาลสั่งเลิกแก้ รธน. ให้ไต่สวนฉุกเฉินระงับไว้จนกว่ามีคำวินิจฉัย พร้อมยุบพรรคฝั่งรัฐบาล
วันนี้ (5 ก.ย.) นายบวร ยสินธร เครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.เนื่องจากเห็นว่ามีหลักการและบทบัญญัติที่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ อันขัดต่อมาตรา 291 (1) วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ การกระทำของผู้เสนอร่างดังกล่าวทั้ง 309 คน ขัดมาตรา 68 เพราะเป็นกรณีที่บุคคลใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่เป็นไปตามวิธีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ อันเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 อย่างชัดเจน เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของรัฐสภา จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ
ทั้งนี้ หากต้องการแก้ไขที่มา ส.ว.ที่กระทบต่อโครงสร้างของวุฒิสภาแล้ว ครม.ต้องจัดให้มีการทำประชามติในประเด็นดังกล่าวตามมาตรา 165 (1) การริเริ่มโดยสมาชิกรัฐสภาจึงกระทำมิได้ตามมาตรา (1) วรรค 2 อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวยังเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของสมาชิกวุฒิสภาตามมาตรา 122 ของรัฐธรรมนูญด้วย จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 291 (1) วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญที่ไม่อาจเสนอให้รัฐสภาพิจารณาได้ และประธานรัฐสภาไม่อาจรับญัตติดังกล่าวไว้พิจารณา
นายบวรกล่าวด้วยว่า ได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งการให้ประธานรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภาเลิกการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเพิกถอนการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวทั้งหมดทันที โดยขอให้ดำเนินการไต่สวนฉุกเฉินให้ระงับการดำเนินการไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย และให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเพื่อไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา พลังชน มหาชน และประชาธิปไตยใหม่