ศาลอาญา รัชดาฯ นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร และธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี นายเอกชัย อธิคมนันทะ อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี บริษัท ซัพพอร์ตซิสเต้มส์ จำกัด และนายรังสรรค์ ปิยะวงศ์ภิญโญ กรรมการบริษัทในเครือข่ายของนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษานายเกริกเกียรติ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ และ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535
โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 20 ปี และปรับเป็นเงินกว่า 49,000 ล้านบาท จำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 3 เป็นนิติบุคคล จึงสั่งปรับเป็นเงิน 6 ล้านบาท และจำเลยที่ 4 ให้จำคุก 9 ปี รวมถึงมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันชดใช้เงินคืนให้บีบีซีรวมกว่า 2,400 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นสมควรพิพากษาแก้ ให้จำเลยที่ 3 มีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ปรับ 6 ล้านบาท แต่ยังให้ชดใช้ค่าเสียหายคืนบีบีซี เป็นเงินรวมกว่า 2,400 ล้านบาท และยกฟ้องในฐานความผิดยักยอกทรัพย์ ส่วนจำเลยที่ 2 พิพากษายืนยกฟ้อง ขณะที่จำเลยที 1 และที่ 4 เสียชีวิต ศาลจึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 20 ปี และปรับเป็นเงินกว่า 49,000 ล้านบาท จำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 3 เป็นนิติบุคคล จึงสั่งปรับเป็นเงิน 6 ล้านบาท และจำเลยที่ 4 ให้จำคุก 9 ปี รวมถึงมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันชดใช้เงินคืนให้บีบีซีรวมกว่า 2,400 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นสมควรพิพากษาแก้ ให้จำเลยที่ 3 มีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ปรับ 6 ล้านบาท แต่ยังให้ชดใช้ค่าเสียหายคืนบีบีซี เป็นเงินรวมกว่า 2,400 ล้านบาท และยกฟ้องในฐานความผิดยักยอกทรัพย์ ส่วนจำเลยที่ 2 พิพากษายืนยกฟ้อง ขณะที่จำเลยที 1 และที่ 4 เสียชีวิต ศาลจึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ