xs
xsm
sm
md
lg

มติสภาฯ 393 :1 เห็นชอบ พ.ร.ก.ขึ้นภาษีน้ำเมา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 15.40 น. นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษเพื่อพิจารณาร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สุรา พ.ศ.2493 (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2556 หรือ พ.ร.ก.ขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่า การปรับโครงสร้างภาษีสุรานั้นไม่เกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้เข้าประเทศไม่เป็นไปตามเป้า แต่ข้อเท็จจริงแล้วเมื่อวันที่ 17 กันยายน กรมสรรพสามิต เก็บภาษีเกินกว่าเป้าหมาย ไปกว่า 7,500 ล้านบาท สำหรับราคาขายสุราที่มีการปรับการจัดเก็บภาษีเป็นแบบผสม คือ ตามปริมาณและดีกรีของแอลกอฮอล์ หรือตาม พ.ร.ก.ขึ้นภาษีสุราฉบับใหม่นั้นจะมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างเท่ากันทุกยี่ห้อ โดยราคาขายส่งช่วงสุดท้ายที่หักภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น ราคาขายส่งเบียร์ ขนาดไม่เกิน 7 ดีกรี ปริมาณ 0.63 ลิตร ราคาขายส่งจะอยู่ที่ 32.71 บาท ดังนั้น เมื่อมีการคำนวณภาษีตามอัตราที่ปรับใหม่ จะใช้การคำนวณ คือ คำนวณตามมูลค่า คือ เบียร์ขายส่ง 35 บาท อัตราภาษีปัจจุบัน คือ 1.55 ต่อ 1 ดีกรี ดังนั้น ภาษีสรรพสามิต จะอยู่ที่ 6.83 บาทต่อขวด การคำนวณภาษีตามปริมาณ เช่น ราคาขายส่งเบียร์ 35 บาท อัตราภาษีคือ 8 บาทต่อลิตร ภาษีสรรพสามิตที่จะนำมาคำนวณเป็นราคาเบียร์ คือ 6.83 บาท ดังนั้นสรุปคือภาษีเบียร์ที่ต้องชำระอัตรา 1 ขวด ประกอบด้วย ภาษีสรรพสามิต ตามมูลค่า ตามปริมาณ ภาษีมหาดไทย ภาษี สสส. และภาษีไทยพีบีเอส รวมเป็นเงินภาษีที่ต้องชำระ คือ 25.51 บาท
อย่างไรก็ตาม การออก พ.ร.ก.ขึ้นภาษีไม่ได้เป็นประเด็นทางการเมือง อีกทั้งได้มีการสำรวจสินค้าก่อนออกกฎหมาย โดยกรมสรรพสามิตออกสำรวจทั่วประเทศแล้ว ส่วนการขึ้นราคาสุรา หรือเบียร์นั้น ยืนยันว่าจะปรับราคาต่อขวดไม่มากนักเฉลี่ย 2 - 5 บาท แต่หากพบว่ามีการขายเกินราคา หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบจะเข้าไปดูแล
หลังจากนั้น ที่ประชุมมีการลงมติให้ความเห็นชอบ พ.ร.ก.ขึ้นภาษีสุรา ด้วยเสียง 393 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 23 เสียง ไม่ลงคะแนน 5 เสียง
กำลังโหลดความคิดเห็น