“โค้ก” โวย หลัง รบ.เม็กซิโกจ่อเก็บภาษีเครื่องดื่มผสมน้ำตาล

เอเอฟพี - บริษัท โคคา-โคลา และผู้ผลิตน้ำอัดลมอื่นๆ ในเม็กซิโกเมื่อวันอังคาร (10) ออกมาตำหนิแผนของรัฐบาลที่เตรียมเรียกเก็บภาษีเครื่องดื่มผสมน้ำตาล ในความพยายามจำกัดอัตราโรคอ้วนและโรคเบาหวานที่สูงลิ่วของประเทศ

ประธานาธิบดี เอ็นริเก เปนญา เนียโต เสนอให้ชาวเม็กซิโกต้องเสียเงินเพิ่มอีก 1 เปโซ (ราว 2.45 บาท) ต่อเครื่องดื่มรสหวานทุกๆ 1 ลิตร โดยอ้างข้อมูลต่างๆ ที่ระบุว่าประเทศแห่งนี้เบียดแย่งกับสหรัฐฯสำหรับตำแหน่งที่ไม่อยากได้นั่นคือชาติที่อ้วนที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตาม โคคา-โคลา ประจำเม็กซิโก ออกถ้อยแถลงโต้แย้งว่าการเก็บภาษีเครื่องดื่มเป็นการต่อสู้กับปัญหาที่ไม่ได้ผล เนื่องจากโรคอ้วนมีความซับซ้อนมากกว่านั้น “ทางที่ได้ผลที่แท้จริงคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เราจำเป็นต้องให้ประชาชนได้เรียนรู้ถึงการนับปริมาณแคลอรี ซึ่งนั่นรวมไปถึงปริมาณแคลอรีในเครื่องดื่มของเราด้วย”

แผนนี้เป็นส่วนหนึ่งในมาตรการปฏิรูปทางการเงินเพื่อปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีที่ทางประธานาธิบดี เนียโต แถลงออกมาเมื่อวันอาทิตย์ (8) โดยรัฐบาลอ้างข้อมูลที่ระบุว่าเม็กซิโกเป็นชาติหมายเลข 1 ของโลกที่บริโภคเครื่องดื่มน้ำอัดลม โดยคนหนึ่งจะบริโภคเฉลี่ยแล้ว 163 ลิตรต่อปี ขณะที่สหรัฐฯมีการบริโภคเฉลี่ยแล้วอยู่ที่คนละ 118 ลิตรต่อปี ขณะที่ผลสำรวจทางสุขภาพนานาชาติในปี 2012 พบว่าชาวเม็กซิโก ร้อยละ 32.4 เป็นโรคอ้วน ส่วนสหรัฐฯมีอัตราคนเป็นโรคอ้วนอยู่ที่ร้อยละ 35.7

กระนั้นก็ดีสมาคมผู้ผลิตน้ำอัดลมของเม็กซิโกโต้แย้งว่าการเก็บภาษีพิเศษนี้ไม่ได้ช่วยคลี่คลายปัญหาโรคอ้วน แถมยังเป็นการทำลายเหล่าเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยซึ่งถือเป็นผู้บริโภคที่ยากจนที่สุดของประเทศด้วย พร้อมชี้ว่าอย่างดีที่สุดภาษีนี้ก็จะช่วยลดปริมาณแคลอรีที่บริโภคเข้าไปแค่โดยเฉลี่ยร้อยละ 1.1 เท่านั้น