xs
xsm
sm
md
lg

มอสโกแจงแผนปลดอาวุธเคมีซีเรีย เผยมีทั้งหมด 4 ขั้นตอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มอสโกและวอชิงตันเริ่มต้นการเจรจาสำคัญว่าด้วยแผนการปลดอาวุธเคมีซีเรีย หลังจาก “ปูติน”เรียกร้องแกมดักคออเมริกาว่า ปฏิบัติการทางทหารฝ่ายเดียวจะทำให้ความรุนแรงและลัทธิก่อการร้ายขยายไปทั่วตะวันออกกลาง ด้านฝรั่งเศสคาดหมายว่า ยูเอ็นจะเผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบอาวุธเคมีในซีเรียต้นสัปดาห์หน้า

จอห์น เคร์รี และเซอร์เก ราฟลอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และรัสเซียตามลำดับ มีกำหนดพบกันที่นครเจนีวาในวันพฤหัสบดี (12) เพื่อหารือแผนการของมอสโกในการทำลายอาวุธเคมีของซีเรีย

ต้นสัปดาห์นี้ รัสเซียช็อกโลกด้วยการเสนอให้ดามัสกัสยอมส่งมอบอาวุธเคมีแก่นานาชาติ เพื่อให้อเมริกาเลิกแผนใช้ปฏิบัติการทางทหารลงโทษรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ถูกตะวันตกกล่าวหาว่า ใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนของตนเองเมื่อวันที่ 21 เดือนที่แล้ว

ในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ขานรับโดยยอมระงับการโจมตีซีเรียเอาไว้ก่อน ทว่า อเมริกาและฝรั่งเศสเตือนว่า ปฏิบัติการทางทหารยังคงเป็นตัวเลือกสำคัญ หากกระบวนการทางการทูตล้มเหลว

สำหรับฝ่ายรัสเซียนั้น เมื่อวันพฤหัสบดี หนังสือพิมพ์คอมเมียร์ซันต์ ของรัสเซียรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูตของรัสเซีย ถึงรายละเอียดแผนการปลดอาวุธเคมีซีเรียที่จะเสนอต่อวอชิงตันเป็นครั้งแรก ว่าจะประกอบด้วย 4 ขั้นตอนได้แก่การที่ซีเรียเข้าร่วมองค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) แล้วเปิดเผยที่ตั้งคลังอาวุธเคมี ตามมาด้วยการยินยอมให้เจ้าหน้าที่โอพีซีดับเบิลยูเข้าตรวจสอบ และสุดท้ายคือดำเนินการทำลายหัวรบอาวุธเคมี

นอกจากนี้ก่อนการเจรจา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ยังทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือเขียนบทความตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ เตือนว่าปฏิบัติการทางทหารฝ่ายเดียวของอเมริกาตามที่โอบามาแถลงต่อประชาชนเมื่อคืนวันอังคาร (10) โดยอ้างว่า อเมริกามีบทบาทพิเศษนั้น มีแต่จะทำให้ความรุนแรงลุกลามออกนอกพรมแดนซีเรีย และปลุกกระแสลัทธิก่อการร้ายระลอกใหม่ในตะวันออกกลาง รวมทั้งอาจทำให้ระบบกฎหมายระหว่างประเทศและระเบียบโลกทั้งหมดเสียศูนย์

กระนั้น ปูตินก็แสดงความยินดีที่วอชิงตันตกลงที่จะพิจารณาข้อเสนอของมอสโก แต่ไม่วายเตือนว่า การโจมตีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ที่รัสเซียมีอำนาจยับยั้ง จะทำลายความน่าเชื่อถือของยูเอ็น
กำลังโหลดความคิดเห็น