กองกำลังของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด อพยพบุคลากรออกจากศูนย์บัญชาการทางทหารและความมั่นคงทั้งหลายซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงดามัสกัสแล้วเมื่อวันพุธ(28) เพื่อรับมือกับการโจมตีของชาติตะวันตก ขณะเดียวกันก็พบเห็นพลเรือนกักตุนอาหารและอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงท่ามกลางความเคลื่อนไหวคณะผู้แทนนานาชาติที่เริ่มหารือต่อร่างมติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาติที่จะเปิดทางให้ใช้กำลังถล่มรัฐบาลซีเรีย
แทบจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่าสหรัฐฯจะเลือกโจมตีทางอากาศหรือไม่ก็ยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรีย หลังจากอเมริกาและชาติตะวันตก รวมทั้งพันธมิตรในตะวันออกกลาง ล้วนกล่าวโทษว่ากองกำลังของประธานาธิบดีอัสซาด เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือนไปหลายร้อยศพรอบนอกกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าพบเห็นทหารหลายหน่วยที่ประจำการอยู่ใกล้ๆเมืองหลวง ดำเนินการยึดรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคัน ซึ่งดูเหมือนว่าจะนำมาใช้ปฏิบัติการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักไปยังตำแหน่งอื่นๆ แม้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างมีนัยก็ตาม
ส่วนชาวบ้านในพื้นที่และแหล่งข่าวฝ่ายกบฏก็เสริมว่ามีการอพยพบุคลากรบางส่วนออกจากอาคารเสนาธิการทหารบริเวณจตรัสอูมายยัด รวมถึงที่กองบัญชาการกองทัพอากาศซึ่งอยู่ใกล้ๆกันและสำนักงานความมั่นคงอื่นๆในเขตเวสเทิร์น คฟาร์ ซูเซช์
ทางกองทัพซีเรียไม่ได้เปิดเผยความเคลื่อนไหวทางทหารแก่สาธารณชนและจนถึงตอนนี้ทางโฆษกของรัฐบาลก็ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้
แม้อาคารเสนาธิการ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์บัญชาการระดับสูงสุดของประเทศ จะเหลือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการงานจำนวนน้อย นับตั้งแต่ถูกกบฏโจมตีด้วยระเบิดในเดือนกันยายน 2012 ทว่าในวันพุธ(28) กลับไม่มีใครมาทำงานที่นั่นเลย เช่นเดียวกับอาคารอื่นๆที่อยู่โดยรอบ ขณะที่ชาวบ้านบอกว่าพบเห็นรถบรรทุกหลายคันวนเวียนบริเวณทางเข้าของอาคารเหล่านั้นตลอดช่วง 48 ชั่วโมงหลังสุด และเชื่อว่ามันถูกนำมาขนย้ายเอกสารและอาวุธเบาต่างๆ
แทบจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่าสหรัฐฯจะเลือกโจมตีทางอากาศหรือไม่ก็ยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรีย หลังจากอเมริกาและชาติตะวันตก รวมทั้งพันธมิตรในตะวันออกกลาง ล้วนกล่าวโทษว่ากองกำลังของประธานาธิบดีอัสซาด เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือนไปหลายร้อยศพรอบนอกกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าพบเห็นทหารหลายหน่วยที่ประจำการอยู่ใกล้ๆเมืองหลวง ดำเนินการยึดรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคัน ซึ่งดูเหมือนว่าจะนำมาใช้ปฏิบัติการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักไปยังตำแหน่งอื่นๆ แม้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างมีนัยก็ตาม
ส่วนชาวบ้านในพื้นที่และแหล่งข่าวฝ่ายกบฏก็เสริมว่ามีการอพยพบุคลากรบางส่วนออกจากอาคารเสนาธิการทหารบริเวณจตรัสอูมายยัด รวมถึงที่กองบัญชาการกองทัพอากาศซึ่งอยู่ใกล้ๆกันและสำนักงานความมั่นคงอื่นๆในเขตเวสเทิร์น คฟาร์ ซูเซช์
ทางกองทัพซีเรียไม่ได้เปิดเผยความเคลื่อนไหวทางทหารแก่สาธารณชนและจนถึงตอนนี้ทางโฆษกของรัฐบาลก็ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้
แม้อาคารเสนาธิการ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์บัญชาการระดับสูงสุดของประเทศ จะเหลือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการงานจำนวนน้อย นับตั้งแต่ถูกกบฏโจมตีด้วยระเบิดในเดือนกันยายน 2012 ทว่าในวันพุธ(28) กลับไม่มีใครมาทำงานที่นั่นเลย เช่นเดียวกับอาคารอื่นๆที่อยู่โดยรอบ ขณะที่ชาวบ้านบอกว่าพบเห็นรถบรรทุกหลายคันวนเวียนบริเวณทางเข้าของอาคารเหล่านั้นตลอดช่วง 48 ชั่วโมงหลังสุด และเชื่อว่ามันถูกนำมาขนย้ายเอกสารและอาวุธเบาต่างๆ