พ.ท.ธีรวัฒน์ คงมนต์ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ระดับชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้นำสำนวนการสอบสวนในความผิดที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับคดีฉ้อโกงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศ มาส่งมอบให้กับ นายวินัย ดำรงมงคลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ หลังดีเอสไอมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาประกอบด้วยบริษัทพีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล และ นายวิษณุ วิเศษสิงห์ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามที่กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่า ด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วนงานของรัฐ หรือ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล พ.ศ. 2542 มาตรา 8 โดยในสำนวนคดีฮั้วประมูลมีจำนวน 2 ลัง 15 แฟ้ม มีความหนา 4,809 หน้า
ทั้งนี้ พ.ท.ธีรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ส่งสำนวนคดีฉ้อโกงมายังอัยการให้พิจารณามีความเห็นแล้ว และคดีที่ส่งสำนวนวันนี้ เป็นคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ดีเอสไอได้ส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้พิจารณาแล้ว และคดีที่ต้องพิจารณาเป็นสำนวนต่อไปคือ การปลอมแปลงลายมือชื่อเจ้าพนักงานตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบงานจ้างเหมาของแต่ละโรงพัก ซึ่งดีเอสไอจะลงพื้นที่ตรวจสอบไปยังโรงพักต่างๆ ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ พ.ท.ธีรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ส่งสำนวนคดีฉ้อโกงมายังอัยการให้พิจารณามีความเห็นแล้ว และคดีที่ส่งสำนวนวันนี้ เป็นคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ดีเอสไอได้ส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้พิจารณาแล้ว และคดีที่ต้องพิจารณาเป็นสำนวนต่อไปคือ การปลอมแปลงลายมือชื่อเจ้าพนักงานตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบงานจ้างเหมาของแต่ละโรงพัก ซึ่งดีเอสไอจะลงพื้นที่ตรวจสอบไปยังโรงพักต่างๆ ในสัปดาห์หน้า