นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเร่งหารือถึงแนวทางการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงเร่งหน่วยงานราชการระดับท้องถิ่น ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้รวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ เหลือเพียงร้อยละ 4.5 โดยเป็นผลมาจากการส่งออกชะลอตัวกว่าที่คาดไว้ ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการใช้จ่ายที่ชะลอลงจากมาตรการภาครัฐที่ทยอยหมดอายุ เช่น มาตรการรถคันแรก เป็นต้น
ทั้งนี้ นายอารีพงศ์ ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีโอกาสจะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น เพราะค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ส่งออก ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจจีน ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับไทยมากนัก
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า สศค. ยังคงประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ที่ร้อยละ 4.5 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับหน่วยงานเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์กลับมาเป็นบวก ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จะช่วยผลักดันการส่งออกในปีนี้ให้โตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5.5 แม้ในช่วง 5 เดือนแรกขยายตัวได้เพียงร้อยละ 1.86
ทั้งนี้ นายอารีพงศ์ ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีโอกาสจะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น เพราะค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ส่งออก ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจจีน ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับไทยมากนัก
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า สศค. ยังคงประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ที่ร้อยละ 4.5 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับหน่วยงานเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์กลับมาเป็นบวก ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จะช่วยผลักดันการส่งออกในปีนี้ให้โตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5.5 แม้ในช่วง 5 เดือนแรกขยายตัวได้เพียงร้อยละ 1.86