xs
xsm
sm
md
lg

IMF ขู่หั่นจีดีพีสหรัฐหากมาตรการตัดงบรายจ่ายมีผลบังคับใช้วันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

        กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า IMF มีแนวโน้มที่จะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและเศรษฐกิจโลกลงหากมาตรการลดการใช้จ่ายโดยอัตโนมัติของสหรัฐมีผลบังคับใช้ในวันนี้ และเตือนว่า ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด
        นายวิลเลียม เมอร์เรย์ โฆษกของ IMF กล่าวว่า หากมาตรการลดงบประมาณรายจ่ายมีการบังคับใช้อย่างเต็มที่ IMF มีแนวโน้มที่จะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐลงอย่างน้อยที่สุด 0.5% จาก
ปัจจุบันที่คาดไว้ที่ระดับ 2% ในปีนี้
        "เราจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ แต่ทุกคนก็คาดว่า การปรับลดงบประมาณรายจ่ายโดยอัตโนมัติ (sequestration) กำลังจะมีผลบังคับใช้"นายเมอร์เรย์กล่าวในการแถลงข่าว "นั่นหมายความว่า เราจะต้องทำการ
ประเมินการคาดการณ์ของเราใหม่ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและการคาดการณ์อื่นๆ"
        คำเตือนของไอเอ็มเอฟเกี่ยวกับผลกระทบของการตัดงบรายจ่ายที่มีต่อสหรัฐและประเทศอื่นๆมีขึ้น ในขณะที่ยุโรปยังคงเผชิญความยากลำบากกับผลกระทบของวิกฤติหนี้ ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงใน
ประเทศตลาดเกิดใหม่ อาทิ จีน, อินเดียและบราซิล
        ประธานาธิบดีบารัค โอบามาและผู้นำพรรครีพับลิกันยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่จะหลีกเลี่ยงการตัดงบรายจ่าย 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์
        ตัวเลขคาดการณ์ที่มีการปรับทบทวนของไอเอ็มเอฟจะถูกสะท้อยในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกของ IMF ซึ่งจะออกในกลางเดือนเม.ย.โดยรายงานครั้งก่อนของ IMF ในเดือนม.ค.คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว
3.5% ในปีนี้ และเพิ่มขึ้นเป็น 4.1% ในปีหน้า
        IMF ได้เรียกร้องให้สหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นคู่ค้าที่สำคัญของประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอื่นๆ ให้ทำการบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการปรับลดงบรายจ่ายลงอย่างรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางอยู่แล้ว และอาจกระทบต่อตลาดการเงิน
        "ปีนี้จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน" นายเมอร์เรย์กล่าว "เราต้องดูว่าจะมีการบังคับใช้ sequestration นานเพียงใด ผมไม่คิดว่าจะมีความชัดเจนในขณะนี้ เพราะจะไม่ใช่การบังคับใช้การตัดงบรายจ่ายทั้งหมดในทันที และเราต้องดูว่ากระบวนการทางการเมืองจะเป็นอย่างไร"
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
 
 
T.Thammasak
กำลังโหลดความคิดเห็น