เรเซป ตอยยิบ เออร์โดแกน นายกรัฐมนตรีตุรกีเมื่อวันอังคาร(18) อ้างชัยชนะเหนือผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล หลังดำเนินการปราบปรามอย่างหนักต่อเหล่านักเคลื่อนไหว ขณะที่ตำรวจบุกเข้าตรวจค้นบ้านเรือนประชาชนและจับกุมผู้ประท้วงไปหลายร้อยคน ในปฎฺบัติการยับยั้งเหตุความไม่สงบที่กินเวลานานเกือบ 3 สัปดาห์
หลังจากเกิดเหตุปะทะอย่างดุเดือดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อันจุดชนวนมาจากปฏิบัติการขับไล่ผู้ชุมนุมออกจากสวนสาธารณะเกซีของอิสตันบูล เหล่าผู้ประท้วงก็ประสบปัญหาในพยายามรวมกลุ่มใหม่และนับตั้งแต่นั้นก็พบเห็นแต่การปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมกลุ่มเล็กๆตามเมืองต่างๆทั่วประเทศเท่านั้น
เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ตำรวจปราบจลาจลในกรุงอังการา ยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเข้าใส่ผู้ประท้วงที่ตอบโต้ด้วยหินและซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังที่กำบังซึ่งสร้างขึ้นมาแบบชั่วคราว อย่างไรก็ตามเหตุปะทะมีขึ้นแค่ช่วงสั้นๆและไม่มีรายงานพบเห็นเหตุเผชิญหน้าที่อื่นๆอีก ส่วนที่อิสตันบูล ผู้ชุมนุมหลายสิบคนปรับเปลี่ยนสู่การประท้วงเงียบ ด้วยการยืนนิ่งแสดงอารยะขัดขืนในจตุรัสทักซิม ซึ่งอยู่ติดกับสวนสาธารณะเกซี
ขณะที่การประท้วงดูเหมือนจะลดความรุนแรงลง นายเออร์โดแกน จึงประกาศก้องว่าตนเองมีชัยชนะเหนือวิกฤตที่ถูกมองว่าเป็นความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดของรัฐบาลรากฐานอิสลาม ซึ่งปกครองประเทศแห่งนี้มายาวนาน "ประชาธิปไตยของเราถูกทดสอบอีกครั้งและผลคือได้รับชัยชนะ" นายกรัฐมนตรีบอกกับสมาชิกพรรคยุติธรรมและการพัฒนา(เอเคพี) ส่วนเหล่าสมาชิกก็พากันปรบมือดังกึกก้อง "ประชาชนและรัฐบาลเอเคพีไม่ตกหลุมพรางที่วางโดยคนทรยศและผู้สมคิดชาวต่างชาติของพวกเขา"
หลังจากเกิดเหตุปะทะอย่างดุเดือดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อันจุดชนวนมาจากปฏิบัติการขับไล่ผู้ชุมนุมออกจากสวนสาธารณะเกซีของอิสตันบูล เหล่าผู้ประท้วงก็ประสบปัญหาในพยายามรวมกลุ่มใหม่และนับตั้งแต่นั้นก็พบเห็นแต่การปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมกลุ่มเล็กๆตามเมืองต่างๆทั่วประเทศเท่านั้น
เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ตำรวจปราบจลาจลในกรุงอังการา ยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเข้าใส่ผู้ประท้วงที่ตอบโต้ด้วยหินและซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังที่กำบังซึ่งสร้างขึ้นมาแบบชั่วคราว อย่างไรก็ตามเหตุปะทะมีขึ้นแค่ช่วงสั้นๆและไม่มีรายงานพบเห็นเหตุเผชิญหน้าที่อื่นๆอีก ส่วนที่อิสตันบูล ผู้ชุมนุมหลายสิบคนปรับเปลี่ยนสู่การประท้วงเงียบ ด้วยการยืนนิ่งแสดงอารยะขัดขืนในจตุรัสทักซิม ซึ่งอยู่ติดกับสวนสาธารณะเกซี
ขณะที่การประท้วงดูเหมือนจะลดความรุนแรงลง นายเออร์โดแกน จึงประกาศก้องว่าตนเองมีชัยชนะเหนือวิกฤตที่ถูกมองว่าเป็นความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดของรัฐบาลรากฐานอิสลาม ซึ่งปกครองประเทศแห่งนี้มายาวนาน "ประชาธิปไตยของเราถูกทดสอบอีกครั้งและผลคือได้รับชัยชนะ" นายกรัฐมนตรีบอกกับสมาชิกพรรคยุติธรรมและการพัฒนา(เอเคพี) ส่วนเหล่าสมาชิกก็พากันปรบมือดังกึกก้อง "ประชาชนและรัฐบาลเอเคพีไม่ตกหลุมพรางที่วางโดยคนทรยศและผู้สมคิดชาวต่างชาติของพวกเขา"
