เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดแกน แห่งตุรกีเมื่อวันพฤหัสบดี(6) อ้างว่ามีสมาชิกองค์กรก่อการร้ายฉวยโอกาสเข้าร่วมชุมนุมนองเลือดต่อต้านรัฐบาลที่ลุกลามไปทั่วประเทศ และประกาศกร้าวไม่ยอมยกเลิกแผนพัฒนาอิสตันบูล อันเป็นชนวนของการประท้วงที่กินเวลาเกือบสัปดาห์แล้ว
"ในหมู่ผู้ประท้วง มีพวกหัวรุนแรง บางคนเกี่ยวข้องกับก่อการร้าย "เออร์โดแกน บอกกับผู้สื่อข่าวที่กรุงตูนิส เมืองหลวงของตูนิเซีย ในวันสุดท้ายของโปรแกรมเยือนอเมริกาเหนือ ที่ถูกบดบังโดยเหตุความไม่สงบในประเทศ "ผู้สนับสนุนขององค์กรก่อการร้ายนี้เหล่านี้ปรากฏตัวที่จตุรัสทักซิม ศูนย์กลางของการประท้วง"
นายเออร์โดแกน อ้างด้วยว่าได้ควบคุมชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบ 7 ราย แต่ไม่ระบุถึงสัญชาติของคนเหล่านั้นและไม่ได้เปิดเผยด้วยว่าทั้งหมดถูกจับกุมตัวที่ไหน "ชาวต่างชาติ 7 คนเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบ โดย 6 คนถูกสอบปากคำโดยอัยการ" นายกรัฐมนตรีตุรกีกล่าว "จะมีการไต่สวนเพื่อระบุถึงวิธีที่พวกเขาเข้าไปมีส่วนร่วมกับเหตุความรุนแรง"
นับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ประชาชนผู้โกรธกริ้วหลายหมื่นคนต่างออกมาคัดค้านนโยบายอนุรักษ์นิยมของพรรคพัฒนาและความเป็นธรรม (justice and development party : AKP) ของนายเออร์โดแกน และพากันชุมนุมตามท้องถนนสายต่างๆในเหล่าเมืองหลักๆของตุรกี เรียกร้องให้นายเออร์โดแกน ลาออกจากตำแหน่ง
ประชาชนเหล่านั้นออกมาชุมนุมอย่างสันติคัดค้านแผนการพัฒนาเมืองฉบับใหม่ในบริเวณจตุรัสทักซิม ที่จะนำพื้นที่ส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะมาก่อสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ ทำให้พื้นที่สีเขียวในนครอิสตันบูลลดจำนวนลง แต่ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองอันหนักมือของตำรวจ ก็จุดชนวนเหตุความไม่สงบลุกลามไปทั่วประเทศและคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 3 ราย
ขณะที่นายเออร์โดแกน เมื่อวันพฤหัสบดี(6) ออกมาปกป้องแผนพัฒนาเมืองของตนเองอีกรอบ "โครงการนี้ให้ความเคารพต่อประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมของตุรกี สิ่งที่เรากำลังทำคือปกป้องสิทธิของคนกลุ่มใหญ่และถนอมไว้ซึ่งความสวยงามของกรุงอิสตันบูล" เขากล่าวพร้อมปฏิเสธเชื่อมโยงนักเคลื่อนไหวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับเหตุความไม่สงบ "เรารู้ดีว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหานี้ และผมไม่นับรวมพลเมืองทุกคนที่มีความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม"
สถานการณ์ในอิสตันบูลค่อนข้างเงียบสงบตลอดคืนวันพุธ (5) ทว่าตามเมืองใหญ่อื่นๆ เป็นต้นว่า เมืองหลวงอังการา ยังคงมีการปะทะกันเป็นระยะๆ ระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลซึ่งใช้ทั้งแก๊สน้ำตา, สเปรย์พริกไทย, และเครื่องฉีดน้ำ