คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. ได้เชิญภาคเอกชนเข้าร่วมการเปิดซองประกวดราคาโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยวงเงิน 350,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เหลือเพียง 4 กลุ่มบริษัท ที่ได้ยื่นซองด้านเทคนิคและซองราคาในการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง (ทีโออาร์) ในแผนงาน 9 แผนงาน (โมดูล) จำนวน 10 โครงการ ซึ่งมีการแถลงข่าวและถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง11 โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย พร้อมด้วยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงข่าวชี้แจงเกี่ยวกับโครงการระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย วงเงิน 350,000 ล้านบาท
นายปลอดประสพ กล่าวว่า จากข้อมูลประเทศไทยอยู่ในวิสัยที่จะมีโอกาสเกิดน้ำท่วมได้ตลอดเวลา และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงลดทอนความเชื่อมั่น ซึ่งภัยธรรมชาติเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ แต่สามารถป้องกันได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงเห็นสมควรที่จะใช้เงินในวงเงิน 350,000 ล้านบาท ทำโครงการป้องกันน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามศึกษาข้อมูลและโครงการต่างๆ อย่างละเอียด ให้สามารถตอบโจทย์ประเทศได้อย่างชัดเจน ซึ่งได้เน้นระบบโครงการระบายน้ำ ระบบส่งน้ำช่วงหน้าแล้ง
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีดำเนินการและขั้นตอนในโครงการดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความประสงค์ให้การประมูลโครงการดังกล่าว เกิดความโปร่งใส ซึ่งกำชับให้ กบอ. สรรหาบริษัทที่เข้ามาจัดทำโครงการอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม และดำเนินการพิจารณาด้านเทคนิคผ่านการถ่ายทอดสด เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วม และยืนยันความโปร่งใสการทำงานของรัฐบาล ซึ่งมีแผนการใช้เงินในวงเงิน 350,000 ล้านบาท อย่างชัดเจนและรัดกุม
หลังจากนั้น นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ได้ประชุมคัดเลือกผู้รับจ้างโครงการ เพื่อสรุปหลักเกณฑ์การพิจารณากลุ่มบริษัทที่ได้รับคะแนนเกิน 80 คะแนน พร้อมเตรียมเปิดซองราคาโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยวงเงิน 350,000 ล้านบาท และจะประกาศรายชื่อกลุ่มบริษัทที่ได้รับคะแนนสูงสุดในอันดับที่ 1 และ 2 เพื่อดำเนินการเจรจาต่อรองราคาต่อไป
นายปลอดประสพ กล่าวว่า จากข้อมูลประเทศไทยอยู่ในวิสัยที่จะมีโอกาสเกิดน้ำท่วมได้ตลอดเวลา และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงลดทอนความเชื่อมั่น ซึ่งภัยธรรมชาติเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ แต่สามารถป้องกันได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงเห็นสมควรที่จะใช้เงินในวงเงิน 350,000 ล้านบาท ทำโครงการป้องกันน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามศึกษาข้อมูลและโครงการต่างๆ อย่างละเอียด ให้สามารถตอบโจทย์ประเทศได้อย่างชัดเจน ซึ่งได้เน้นระบบโครงการระบายน้ำ ระบบส่งน้ำช่วงหน้าแล้ง
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีดำเนินการและขั้นตอนในโครงการดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความประสงค์ให้การประมูลโครงการดังกล่าว เกิดความโปร่งใส ซึ่งกำชับให้ กบอ. สรรหาบริษัทที่เข้ามาจัดทำโครงการอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม และดำเนินการพิจารณาด้านเทคนิคผ่านการถ่ายทอดสด เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วม และยืนยันความโปร่งใสการทำงานของรัฐบาล ซึ่งมีแผนการใช้เงินในวงเงิน 350,000 ล้านบาท อย่างชัดเจนและรัดกุม
หลังจากนั้น นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ได้ประชุมคัดเลือกผู้รับจ้างโครงการ เพื่อสรุปหลักเกณฑ์การพิจารณากลุ่มบริษัทที่ได้รับคะแนนเกิน 80 คะแนน พร้อมเตรียมเปิดซองราคาโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยวงเงิน 350,000 ล้านบาท และจะประกาศรายชื่อกลุ่มบริษัทที่ได้รับคะแนนสูงสุดในอันดับที่ 1 และ 2 เพื่อดำเนินการเจรจาต่อรองราคาต่อไป
