มีรายงานจากสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือ สบอช. เปิดเผยว่า วันนี้ (10 มิ.ย.) จะมีการเปิดซองราคา ของบริษัทเอกชนที่ได้รับการพิจารณาในรอบของการเปิดซองด้านเทคนิคโครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท หลังจากมีการชะลอการเปิดมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยมีรายงานด้วยว่า ก่อนการเปิดซองราคาจะมีการแถลงข่าวของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงบริษัทที่จะได้รับการเปิดซองราคา โดยจะการดำเนินการทั้งหมดจะมีการถ่ายทอดทางช่องสถานีโทรทัศน์ช่อง 11
ด้านนายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตประธานคณะกรรมการประธานผันน้ำลงทะเล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. กล่าวถึงกรณีการเปิดซองประมูลว่า การถ่ายทอดสดที่จะเกิดขึ้น จะเปรียบเสมือนการแสดงที่มีการจัดฉากเอาไว้ ซึ่งขอยืนยันว่า โครงการนี้จะทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างหนัก และจะมีการสูญเสียทรัพย์ของแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นดิน หรือการผันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะส่งผลให้เกิดภาวะน้ำทะเลหหนุน และส่งผลต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน เพราะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป
ส่วนกรณีการยื่นจดหมายเสนอแนวทางโครงการน้ำถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้า เพราะไม่ได้มีผู้นำไปศึกษาอย่างจริงจัง และสื่อมวลชนก็ไม่ให้ความสำคัญ พร้อมยอมรับว่าหลังจากนี้ แม้จะมีการแถลงข่าวหรือยื่นหนังสือไปที่ใดคงไม่เกิดประโยชน์ เพราะไม่มีใครสนใจ หลังจากนี้จึงยังพิจารณาอยู่ว่า จะเดินหน้าต่อไป หรือหยุดเรียกร้อง
นายอุเทน ระบุว่า ความจริงแล้วโครงการบริหารจัดการน้ำ เป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ได้แพ้โครงการจำนำข้าวเลย จึงกำลังศึกษาเรื่องเกี่ยวข้องข้อกฎหมายในประมวลกฎหมายฉบับต่างๆ เช่น กฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าว พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน และหากมีความเป็นไปได้ จะยื่นเรื่องนี้ผ่านทางช่องทางใดช่องทางหนึ่งที่มีอำนาจในการจัดการได้ หรืออีกแนวคิดหนึ่งก็จะเดินสายไปตามสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อให้ข้อมูลถึงสำนักข่าว
ด้านนายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตประธานคณะกรรมการประธานผันน้ำลงทะเล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. กล่าวถึงกรณีการเปิดซองประมูลว่า การถ่ายทอดสดที่จะเกิดขึ้น จะเปรียบเสมือนการแสดงที่มีการจัดฉากเอาไว้ ซึ่งขอยืนยันว่า โครงการนี้จะทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างหนัก และจะมีการสูญเสียทรัพย์ของแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นดิน หรือการผันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะส่งผลให้เกิดภาวะน้ำทะเลหหนุน และส่งผลต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน เพราะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป
ส่วนกรณีการยื่นจดหมายเสนอแนวทางโครงการน้ำถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้า เพราะไม่ได้มีผู้นำไปศึกษาอย่างจริงจัง และสื่อมวลชนก็ไม่ให้ความสำคัญ พร้อมยอมรับว่าหลังจากนี้ แม้จะมีการแถลงข่าวหรือยื่นหนังสือไปที่ใดคงไม่เกิดประโยชน์ เพราะไม่มีใครสนใจ หลังจากนี้จึงยังพิจารณาอยู่ว่า จะเดินหน้าต่อไป หรือหยุดเรียกร้อง
นายอุเทน ระบุว่า ความจริงแล้วโครงการบริหารจัดการน้ำ เป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ได้แพ้โครงการจำนำข้าวเลย จึงกำลังศึกษาเรื่องเกี่ยวข้องข้อกฎหมายในประมวลกฎหมายฉบับต่างๆ เช่น กฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าว พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน และหากมีความเป็นไปได้ จะยื่นเรื่องนี้ผ่านทางช่องทางใดช่องทางหนึ่งที่มีอำนาจในการจัดการได้ หรืออีกแนวคิดหนึ่งก็จะเดินสายไปตามสื่อมวลชนทุกแขนงเพื่อให้ข้อมูลถึงสำนักข่าว
