ปชป.ชี้ยืดเวลาประมูลจัดการน้ำ เอื้อวิ่งเต้น เชื่อ บ.เกาหลีได้งาน หลัง “แม้ว-ปู” เยือน

“อรรถวิชช์” ชี้ พ.ร.ก.กู้ 3.5 แสนล้าน ระบบการประมูลผิดปกติ ให้ยื่นซองราคา-ซองเทคนิค ให้ คกก.ลงคะแนน หวั่นเปิดทางวิ่งเต้นไม่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด แถมเหลือแข่งอยู่ 2 กลุ่ม จับตายืดเวลา 1 สัปดาห์ให้วิ่งเต้น ย้อน “ปลอด” รับเองรู้ผลเรียบร้อยแล้ว บี้เผยคะแนนประมูล ทำตาม ป.ป.ช.ประกาศแผนงานให้สอบได้ เชื่อ บ.เกาหลีได้งาน สอดรับ “แม้ว-นายกฯ” เยือนดูงาน แนะจับตา “ธงทอง” เผยผลประมูล เหตุรับบทหนังหน้าไฟ

วันนี้ (31 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการใช้งบประมาณในโครงการก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของรัฐบาล ตาม พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทว่า พบว่ามีระบบการประมูลผิดปกติเปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนประมูลต่างจากระบบการประมูลประกวดราคาที่ให้เอกชนประมูลโดยมีราคากลางที่รัฐกำหนดให้ ซึ่งวิธีการประมูลแบบใหม่นี้ มีการยื่นซองประมูล 2 ซองเพื่อพิจารณา โดยแยกเป็น 1. ซองราคา และ 2. ซองเทคนิค โดยมีคณะกรรมการคัดเลือกโครงการเป็นผู้พิจารณาให้คะแนน ซึ่งตนมีข้อสังเกตว่า การยื่นประมูลที่จะต้องให้คะแนนทั้งเรื่องราคาและเทคนิคอาจนำมาสู่การวิ่งเต้นโครงการ เพราะระบบนี้ไม่ได้เอื้อให้ได้ราคาหรือรูปแบบเทคนิคโครงการที่ดีที่สุด เพราะต้องมีการพิจารณาราคาและเทคนิคควบคู่กัน อีกทั้งการประมูลเดิมมีกลุ่มทุนใหญ่เข้าร่วมประมูลอยู่ 4 กลุ่มบริษัท แต่ขณะนี้ได้ถอนตัวออกไปแล้ว 2 กลุ่ม ทำให้เกิดการแข่งขันน้อยราย เหลือเพียงกลุ่มทุนบริษัท โคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์ปอเรชั่น หรือเค วอเตอร์ และกลุ่มทุน ITD POWER CHINA JV ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท อิตาเลียน-ไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือไอทีดี กับบริษัท พาวเวอร์ ไชน่า ของประเทศจีน แข่งขันกันอยู่เพียงสองเจ้าเท่านั้น

นายอรรถวิชช์กล่าวต่อว่า น่าสังเกตว่าอาจมีกระบวนการเปิดทางให้มีการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้ทำโครงการนี้ของรัฐ เพราะกรอบเวลาที่จะนำเสนอบริษัทที่ประมูลโครงการต่อครม. กำหนดให้เสนอในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ แต่กลับมีการเลื่อนเสนอในวันที่ 11 มิ.ย. ยืดเวลาไปอีกหนึ่งสัปดาห์เข้าข่ายเพิ่มเวลาเพื่อให้บริษัทที่ทำการประมูลวิ่งเต้นราคาก่อนเสนอชื่อต่อ ครม. ทั้งที่ตามกำหนดเวลาคณะกรรมการคัดเลือกสามารถสรุปผลการตัดสินได้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้ยอมรับในที่ประชุมสภาไปแล้วว่ารู้ผลการให้คะแนนเรียบร้อยแล้ว

นายอรรถวิชช์กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องให้มีการเปิดเผยคะแนนการประมูลต่อสาธารณชน และทำตามข้อเสนอของ ป.ป.ช.ที่ให้ประกาศแผนงาน โครงการและราคากลางโดยใช้ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุของสำนักนายกฯ โดยเปิดเผย ตรวจสอบได้ ไม่ใช่อย่างที่ทำอยู่ในเวลานี้ เพราะเชื่อว่าการประมูลครั้งนี้ กลุ่มทุนเค วอเตอร์ น่าจะได้รับงานก่อสร้างโครงการใหญ่ๆทั้งหมด เพราะสอดคล้องกับลำดับเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปเยือนประเทศเกาหลีเพื่อดูงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ ในปี 55 รวมกันถึง 3 ครั้ง ซึ่งในภายหลังก็ชัดเจนแล้วว่าการประมูลโครงการส่วนใหญ่จะมีกลุ่มทุนนี้จากประเทศเกาหลีเป็นตัวหลักในการประมูลจึงขอให้สังคมไทยจับตาผลการประมูลที่นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกฯ จะเป็นผู้เปิดเผยเพราะรับบทเป็นหนังหน้าไฟในโครงการนี้