ปธ.ส.ส.กทม.ปชป.บี้ รบ.สอบกว้านซื้อที่สร้างหมู่บ้านผี ฟันงบกู้ 3.5 แสนล. ดักอย่าให้ ขรก.สอบเอง หวั่นรู้กันนายทุน ตอก “ปลอดประสพ” พฤติกรรมมิชอบ โชว์ภูมิขัดต่อข้อเท็จจริง แถมดูถูก ปชช.จี้ นายกฯตั้งคนอื่นดูแลจัดการน้ำแทน
วันนี้ (19 พ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเงินกู้ 3.5 แสนล้าน เพื่อทำโครงการบริหารจัดการน้ำในกรณีที่มีการร้องเรียนของชาวชัยภูมิ ว่ามีการกว้านซื้อที่ดินก่อสร้างหมู่บ้านผีหวังได้รับเงินชดเชยหลังละ 1 ล้านบาทในการสร้างเขื่อนโป่งขุนเพชร ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณของรัฐ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบว่ามีความพยายามหาประโยชน์จากงบรัฐจริงหรือไม่ ไม่ควรปล่อยให้ข้าราชการในพื้นที่ไปตรวจสอบกันเอง เพราะอาจมีการปิดบัง เอื้อประโยชน์ให้นายทุน ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่ดำเนินการก็เท่ากับยักคิ้วหลิ่วตาให้เกิดการทุจริตในเชิงนโยบายจากเงินก้อนนี้ เพราะถ้าไม่รีบยับยั้งจะเป็นตัวอย่างการทุจริตในโครงการอื่นอีก
นายองอาจ ยังกล่าวถึงการประชุมน้ำโลกที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า การประชุมดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้การแก้ปัญหาเรื่องน้ำของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตรงกันข้ามมีข้อครหาว่าอาจมีการทุจริตจากการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่รับผิดชอบคือ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ จะทำให้เกิดปัญหา เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ 3 ครั้ง ที่ไม่ควรจะบริหารงานต่อไป คือ เคยยืนยันน้ำไม่ท่วมดอนเมือง แต่สุดท้ายน้ำท่วมแต่ไม่มีความรับผิดชอบใดๆ และเมื่อต้นปีที่ผ่านมานายปลอดประสพบอกว่าปัญหาภัยแล้งไม่ทำให้คนอีสานถึงกับตาย แสดงถึงวิสัยทัศน์ที่บิดเบี้ยวไปจากข้อเท็จจริง รวมถึงกรณีการจัดโครงการ 3.5 แสนล้านที่มีการเรียกเอ็นจีโอที่ต่อต้านว่าเป็น ขยะ เป็นการคุกคามเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบของประชาชน จึงถือเป็นพฤติกรรมที่นายกรัฐมนตรีควรต้องตรวจสอบ จะปล่อยให้นายปลอดประสพรับผิดชอบงานด้านน้ำต่อไปไม่ได้ แต่ควรหาบุคคลอื่นทีี่ความเหมาะสมมากกว่ามาดูแล
“การใช้งบ 3.5 แสนล้านต้องได้คนที่มีวิสัยทัศน์เข้าใจการบริหารจัดการ เพราะจะต้องมีการปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมซึ่งต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชน หากคนรับผิดชอบมีวิสัยทัศน์ที่ไม่ถูกต้องโอกาสที่โครกงารจะสำเร็จก็จะยากขึ้น ดังนั้นหลังการประชุมน้ำโลกยุติลง นายกรัฐมนตรีก็ควรจะได้ปรับปรุงตัวบุคคลที่รับผิดชอบใหม่ แต่หากไม่ดำเนินการแล้วเกิดปัญหาตามมานายกรัฐมนตรีก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นด้วย” นายองอาจ กล่าว