นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง กล่าวว่า การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ เป็นการปรับฐานระยะสั้น แต่รอบนี้อาจจะมีระยะเวลานาน 6-7 เดือน ซึ่งหุ้นไทยยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะตลาดหมีที่ซึมยาว หรือ Bear Market แต่นักลงทุนที่เก็งกำไรหรือลงทุนระยะสั้นจะต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้น เพราะหุ้นที่เก็งกำไรจะได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงของดัชนี ขณะที่หุ้นพื้นฐานดียังไปต่อได้ เพราะภาวะเศรษฐกิจยังขยายตัว ขณะที่การลงทุนภาครัฐในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่มีสัญญาณที่จะช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่อง
ส่วนแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังออกมาอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติลงทุนตลาดหุ้นไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ดังนั้น เมื่อได้กำไรจะต้องมีการขาย แต่ยังมีนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนระยะยาวและลงทุนต่อเนื่องตลาดเอเชีย เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังเป็นที่น่าสนใจทั้งอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ หรือ พีเอเรโช ที่ระดับ13 เท่า ถือว่ายังไม่สูงมากและกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังอยู่ในเกณฑ์ดี
สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงระยะนี้ เพราะต้องการสินเชื่อจำนวนมากทั้งภาคเอกชนและบุคคล
ส่วนแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังออกมาอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติลงทุนตลาดหุ้นไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ดังนั้น เมื่อได้กำไรจะต้องมีการขาย แต่ยังมีนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนระยะยาวและลงทุนต่อเนื่องตลาดเอเชีย เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังเป็นที่น่าสนใจทั้งอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ หรือ พีเอเรโช ที่ระดับ13 เท่า ถือว่ายังไม่สูงมากและกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังอยู่ในเกณฑ์ดี
สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงระยะนี้ เพราะต้องการสินเชื่อจำนวนมากทั้งภาคเอกชนและบุคคล
