น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ว่า ไทยและมัลดีฟส์สนใจที่จะเพิ่มพูนการค้าระหว่างกันมากขึ้น ทั้งด้านการท่องเที่ยว อาหาร และพลังงาน ขณะที่รัฐบาลจะนำผลการเยือนไปปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวของไทย เพื่อให้ดึงดูดนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ไทยและมัลดีฟส์มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมากว่า 34 ปี โดยครั้งนี้ถือเป็นการเยือนระดับนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก ซึ่งที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวของไทยเดินทางมาที่มัลดีฟส์จำนวนมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่มัลดีฟส์ให้ความสำคัญคือการเพิ่มพูนมูลค่าทางการค้าระหว่างกันมากขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งร้อยละ 60 ของการนำเข้าสินค้าของมัลดีฟส์เป็นเรื่องอาหาร จึงเป็นแนวทางที่จะสามารถนำภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในธุรกิจอาหารและการแปรรูปอาหาร ขณะที่ไทยนำเข้าปลาทูน่าจากมัลดีฟส์เป็นจำนวนมากเช่นกัน
ทั้งนี้ สาขาที่มัลดีฟส์ต้องการให้เข้ามาลงทุนนอกเหนือจากด้านการเกษตรคือเรื่องของพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานทางเลือก และพลังงานทดแทน รวมถึงปัญหาน้ำจืด ที่มัลดีฟส์ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งตลาดการท่องเที่ยวที่มัลดีฟส์เป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงและอยู่นาน จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนไทยที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงแรม สปา และร้านอาหาร
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จากการเยือนมัลดีฟส์ในครั้งนี้สิ่งที่จะนำไปปรับปรุงด้านการท่องเที่ยวประเทศไทย คือการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการรักษาความสะอาดทางทะเล เพราะถือเป็นสมบัติและรายได้ของประเทศที่ต้องช่วยกันรักษา และเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวมีความต้องการมาชื่นชม
ทั้งนี้ ไทยและมัลดีฟส์มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมากว่า 34 ปี โดยครั้งนี้ถือเป็นการเยือนระดับนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก ซึ่งที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวของไทยเดินทางมาที่มัลดีฟส์จำนวนมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่มัลดีฟส์ให้ความสำคัญคือการเพิ่มพูนมูลค่าทางการค้าระหว่างกันมากขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งร้อยละ 60 ของการนำเข้าสินค้าของมัลดีฟส์เป็นเรื่องอาหาร จึงเป็นแนวทางที่จะสามารถนำภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในธุรกิจอาหารและการแปรรูปอาหาร ขณะที่ไทยนำเข้าปลาทูน่าจากมัลดีฟส์เป็นจำนวนมากเช่นกัน
ทั้งนี้ สาขาที่มัลดีฟส์ต้องการให้เข้ามาลงทุนนอกเหนือจากด้านการเกษตรคือเรื่องของพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานทางเลือก และพลังงานทดแทน รวมถึงปัญหาน้ำจืด ที่มัลดีฟส์ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งตลาดการท่องเที่ยวที่มัลดีฟส์เป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงและอยู่นาน จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนไทยที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงแรม สปา และร้านอาหาร
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จากการเยือนมัลดีฟส์ในครั้งนี้สิ่งที่จะนำไปปรับปรุงด้านการท่องเที่ยวประเทศไทย คือการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการรักษาความสะอาดทางทะเล เพราะถือเป็นสมบัติและรายได้ของประเทศที่ต้องช่วยกันรักษา และเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวมีความต้องการมาชื่นชม
