ญี่ปุ่นยกระดับความมั่นใจในการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจของตน ขานรับกับสัญญาณขาขึ้นทั้งในภาคส่งออกและในผลผลิตอุตสาหกรรม ตอกย้ำให้เห็นว่า นโยบายเชิงรุกทั้งในทางการคลังและทางการเงินของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ซึ่งขนานนามกันว่า “อาเบะโนมิกส์” เริ่มกระตุ้นการเติบโตได้ตามที่วาดหวัง
รายงานประจำเดือนที่สำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยแพร่ออกมาเมื่อวันจันทร์ (20) ระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังค่อยๆ ฟื้นตัว ซึ่งถือเป็นการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไปในทางมั่นใจเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน หลังจากที่รายงานของเมื่อเดือนเมษายนยังบอกว่า เศรษฐกิจส่งสัญญาณการฟื้นตัว แต่ยังมีบางส่วนที่อ่อนแอ
รายงานฉบับนี้เผยแพร่ออกมาก่อนที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะเริ่มการประชุมเป็นเวลา 2 วันที่จะสิ้นสุดในวันพุธ (22) โดยเป็นที่คาดหมายกันว่า จะไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายใดๆ หลังจากที่เพิ่งประกาศแผนการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอย่างครอบคลุมกว้างขวางไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะนำพาเศรษฐกิจของประเทศให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อมานานถึง 15 ปี
นอกจากนั้น ในช่วงเช้าวันจันทร์ สำนักข่าวรอยเตอร์ยังเปิดเผยผลสำรวจตังกังของตนเอง ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6
ดัชนีตังกังของรอยเตอร์ประจำเดือนนี้เพิ่มขึ้น 11 จุด อยู่ที่ +7 ถือว่าอยู่ในแดนบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี และสูงสุดนับจากเดือนกันยายน 2011 โดยคาดด้วยว่าจะไต่ถึงระดับ +22 ในเดือนสิงหาคม
ปัจจัยสำคัญของพัฒนาการนี้คือ ภาคส่งออกที่ได้รับอานิสงส์จากการอ่อนตัวของเงินเยน
สำหรับความเชื่อมั่นของภาคบริการเพิ่มขึ้น 7% อยู่ที่ +19 สูงสุดนับจากเดือนตุลาคม 2007 และคาดว่าจะขึ้นถึงระดับ +28 ในเดือนสิงหาคม
รายงานประจำเดือนที่สำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยแพร่ออกมาเมื่อวันจันทร์ (20) ระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังค่อยๆ ฟื้นตัว ซึ่งถือเป็นการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไปในทางมั่นใจเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน หลังจากที่รายงานของเมื่อเดือนเมษายนยังบอกว่า เศรษฐกิจส่งสัญญาณการฟื้นตัว แต่ยังมีบางส่วนที่อ่อนแอ
รายงานฉบับนี้เผยแพร่ออกมาก่อนที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะเริ่มการประชุมเป็นเวลา 2 วันที่จะสิ้นสุดในวันพุธ (22) โดยเป็นที่คาดหมายกันว่า จะไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายใดๆ หลังจากที่เพิ่งประกาศแผนการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอย่างครอบคลุมกว้างขวางไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะนำพาเศรษฐกิจของประเทศให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อมานานถึง 15 ปี
นอกจากนั้น ในช่วงเช้าวันจันทร์ สำนักข่าวรอยเตอร์ยังเปิดเผยผลสำรวจตังกังของตนเอง ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6
ดัชนีตังกังของรอยเตอร์ประจำเดือนนี้เพิ่มขึ้น 11 จุด อยู่ที่ +7 ถือว่าอยู่ในแดนบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี และสูงสุดนับจากเดือนกันยายน 2011 โดยคาดด้วยว่าจะไต่ถึงระดับ +22 ในเดือนสิงหาคม
ปัจจัยสำคัญของพัฒนาการนี้คือ ภาคส่งออกที่ได้รับอานิสงส์จากการอ่อนตัวของเงินเยน
สำหรับความเชื่อมั่นของภาคบริการเพิ่มขึ้น 7% อยู่ที่ +19 สูงสุดนับจากเดือนตุลาคม 2007 และคาดว่าจะขึ้นถึงระดับ +28 ในเดือนสิงหาคม
