ตัวเลขการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อยู่ในระดับพุ่งแรงที่สุดในรอบ 9 ปี ขณะที่อัตราว่างงานก็ลดต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี บ่งชี้ว่า “อาเบะโนมิกส์” ที่มีเป้าหมายยุติภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจ กำลังส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ซึ่งจะปูทางไปสู่การฟื้นตัวในที่สุด
กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันอังคาร (30 เม.ย.) ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนประจำเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 5.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยนำกำไรซึ่งได้จากหุ้น ไปใช้จ่ายเพิ่ม เช่น ซื้อรถหรือซ่อมแซมบ้าน
ตัวเลขนี้ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นต่อปีซึ่งอยู่ที่ 1.8% และถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2004 ที่ตัวเลขอยู่ที่ 5.3%
กระทรวงกิจการภายในยังเปิดเผยว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมีนาคมได้ลดลงอยู่ที่ 4.1% ต่ำที่สุดนับจากเดือนพฤศจิกายน 2008 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 4.0% และเทียบกับอัตราคาดการณ์เฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งให้กันไว้ที่ 4.3%
ตัวเลขข้อมูลทางเศรษฐกิจเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดความหวังว่า นโยบายการคลังและการเงินเชิงรุกของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ที่เรียกขานกันว่า “อาเบะโนมิกส์” และมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อขับเคลื่อนญี่ปุ่น ประเทศเจ้าของเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ให้สามารถหลุดพ้นจากภาวะถดถอยอย่างยืดเยื้อเรื้อรังนั้น ทำท่าสามารถผลิดอกออกผลได้อย่างที่ต้องการ โดยที่การใช้จ่ายในภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นอุปสงค์ภายในประเทศส่วนที่มีความสำคัญมาก อาจจะเป็นปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญในการรับประกันการเจริญเติบโตในอนาคตระยะใกล้
นอกจากนี้ ตัวเลขการใช้จ่ายในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นยังเป็นข่าวดีสำหรับฮารูฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งตั้งเป้ากระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 2% ภายใน 2 ปี หลังจากที่เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะเงินฝืดมานาน จะได้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและส่งเสริมให้มีการใช้เงินทุน
กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันอังคาร (30 เม.ย.) ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนประจำเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 5.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยนำกำไรซึ่งได้จากหุ้น ไปใช้จ่ายเพิ่ม เช่น ซื้อรถหรือซ่อมแซมบ้าน
ตัวเลขนี้ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นต่อปีซึ่งอยู่ที่ 1.8% และถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2004 ที่ตัวเลขอยู่ที่ 5.3%
กระทรวงกิจการภายในยังเปิดเผยว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมีนาคมได้ลดลงอยู่ที่ 4.1% ต่ำที่สุดนับจากเดือนพฤศจิกายน 2008 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 4.0% และเทียบกับอัตราคาดการณ์เฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งให้กันไว้ที่ 4.3%
ตัวเลขข้อมูลทางเศรษฐกิจเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดความหวังว่า นโยบายการคลังและการเงินเชิงรุกของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ที่เรียกขานกันว่า “อาเบะโนมิกส์” และมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อขับเคลื่อนญี่ปุ่น ประเทศเจ้าของเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ให้สามารถหลุดพ้นจากภาวะถดถอยอย่างยืดเยื้อเรื้อรังนั้น ทำท่าสามารถผลิดอกออกผลได้อย่างที่ต้องการ โดยที่การใช้จ่ายในภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นอุปสงค์ภายในประเทศส่วนที่มีความสำคัญมาก อาจจะเป็นปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญในการรับประกันการเจริญเติบโตในอนาคตระยะใกล้
นอกจากนี้ ตัวเลขการใช้จ่ายในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นยังเป็นข่าวดีสำหรับฮารูฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งตั้งเป้ากระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 2% ภายใน 2 ปี หลังจากที่เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะเงินฝืดมานาน จะได้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและส่งเสริมให้มีการใช้เงินทุน