นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มอบหมายให้สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สสนก. สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์บัญชาการบริหารจัดการน้ำระดับจังหวัด เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นได้มีระบบข้อมูลเชิงพื้นที่ (Internet GIS) และระบบเว็บไซต์ (Website) ติดตามสถานการณ์น้ำประกอบการปฏิบัติงานวางแผนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ และใช้สนับสนุนการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่ โดยเบื้องต้นจะเริ่มนำร่องที่ จ.แพร่และสุโขทัย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาด้านน้ำมาโดยตลอด
นายวรวัจน์ กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ จ.แพร่ และสุโขทัย ประสบปัญหาเรื่องน้ำเป็นประจำทุกปีทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2554 ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่ เกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก แสดงให้เห็นว่าการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องสำคัญ หากมีศูนย์บัญชาการบริหารจัดการน้ำระดับจังหวัด ที่เป็นทั้งศูนย์ข้อมูลสำหรับติดตามสถานการณ์ในภาวะปกติ และศูนย์บัญชาการสำหรับบริหารจัดการในภาวะวิกฤต จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพให้กับหน่วยงานท้องถิ่นให้สามารถเข้าถึงข้อมูลติดตามสถานการณ์ สามารถวางแผนพัฒนาแหล่งน้ำ และบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านความพร้อมของข้อมูลที่จำเป็นสำหรับศูนย์บัญชาการบริหารจัดการน้ำระดับจังหวัด ประกอบด้วยข้อมูลที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลพื้นฐาน โครงสร้างด้านทรัพยากรน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติและโครงการต่างๆ แผนที่น้ำท่วมน้ำแล้ง ปริมาณน้ำฝนรายวัน สถานการณ์น้ำในเขื่อน เป็นต้น ซึ่ง สสนก. ได้รวบรวม และจัดทำข้อมูลระดับจังหวัดแล้วจำนวน 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ และในปี 2557 จะจัดทำให้ครบทุกภาคทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลแหล่งน้ำระดับตำบลที่รวบรวมจากเทศบาล และ อบต.ที่มีศักยภาพจำนวน 500 ตำบลนำร่อง ช่วยเติมเต็มข้อมูลแหล่งน้ำขนาดเล็กให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งหากมีข้อมูลครบถ้วนทั้งประเทศ จะเป็นประโยชน์ต่อระดับนโยบายต่อไป และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากท้องถิ่นสู่ส่วนกลาง เข้าสู่คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ทุกหน่วยงานได้บูรณาการข้อมูลร่วมกัน พร้อมสำหรับปฏิบัติการทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต และยังสนับสนุนการแจ้งเตือนภัยได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยป้องกันหรือลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
นายวรวัจน์ กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ จ.แพร่ และสุโขทัย ประสบปัญหาเรื่องน้ำเป็นประจำทุกปีทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2554 ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่ เกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก แสดงให้เห็นว่าการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องสำคัญ หากมีศูนย์บัญชาการบริหารจัดการน้ำระดับจังหวัด ที่เป็นทั้งศูนย์ข้อมูลสำหรับติดตามสถานการณ์ในภาวะปกติ และศูนย์บัญชาการสำหรับบริหารจัดการในภาวะวิกฤต จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพให้กับหน่วยงานท้องถิ่นให้สามารถเข้าถึงข้อมูลติดตามสถานการณ์ สามารถวางแผนพัฒนาแหล่งน้ำ และบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านความพร้อมของข้อมูลที่จำเป็นสำหรับศูนย์บัญชาการบริหารจัดการน้ำระดับจังหวัด ประกอบด้วยข้อมูลที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลพื้นฐาน โครงสร้างด้านทรัพยากรน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติและโครงการต่างๆ แผนที่น้ำท่วมน้ำแล้ง ปริมาณน้ำฝนรายวัน สถานการณ์น้ำในเขื่อน เป็นต้น ซึ่ง สสนก. ได้รวบรวม และจัดทำข้อมูลระดับจังหวัดแล้วจำนวน 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ และในปี 2557 จะจัดทำให้ครบทุกภาคทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลแหล่งน้ำระดับตำบลที่รวบรวมจากเทศบาล และ อบต.ที่มีศักยภาพจำนวน 500 ตำบลนำร่อง ช่วยเติมเต็มข้อมูลแหล่งน้ำขนาดเล็กให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งหากมีข้อมูลครบถ้วนทั้งประเทศ จะเป็นประโยชน์ต่อระดับนโยบายต่อไป และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากท้องถิ่นสู่ส่วนกลาง เข้าสู่คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ทุกหน่วยงานได้บูรณาการข้อมูลร่วมกัน พร้อมสำหรับปฏิบัติการทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต และยังสนับสนุนการแจ้งเตือนภัยได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยป้องกันหรือลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้